วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

18-19 & 20 May: น้าแดง 2 /ตกเครื่องบิน



ไม่ได้เข้ามาบันทึก 2 วันเพราะไปกรุงเทพ ไปเป็นเจ้าภาพงานศพของน้าแดงในคืนวันเสาร์ที่ 18 พค. เราขอให้พี่หนุ่ยนิมนต์พระแสดงพระธรรมเทศนาด้วย พระอาจารย์เมตตาให้ผ้าไตรจีจรอย่างดี 1ชุดและปัจจัย 1 ซองมาถวายกัณฑ์เทศน์ (น้าแดงเคยมากราบพระอาจารย์ตอนมาเที่ยวที่นี่) เราไปถึงกทม.ตอนบ่ายสอง ไปที่พักที่ไม่เคนรู้จัก ทุกอย่าง search online ติดต่อที่พักซึ่งสะดวกมาก หาไม่ยาก แต่ที่ชอบมากคือตอนดูผ่าน net หาแผนที่เลือกที่พักที่ไกล้วัดจะได้เดินทางสะดวก ปรากฎว่าไปถึงที่พักเห็นวัดที่จัดงานศพอยู่ข้างหน้าไม่ไกล เข้าที่พักสอบถามพนง.เขาบอกว่าเดินผ่านทางลัด ง่ายกว่านั่งรถเพราะจะต้องอ้อมออกไปเพื่อข้ามคลอง พี่หนุ่ยโทรมาบอกว่าการแสดงธรรมจะเริ่ม 18.30 น. (เร็วจัง) เราเห็นว่าเวลาเหลือมากก็เลยลองเดินไปสำรวจทางก่อน ปรากฎว่าใช้เวลา 4 นาทีก็เข้าในวัดแล้ว ไปถึงก็เดินแวะไหว้สิ่งศักดิ์ทั้งหลายที่มีในวัด มากมายทุกนิกาย ลัทธิ ตรงใหนมีที่ปักธูปก็ไหว้หมด เดินแวะไปหาน้าแดงว่านอนอยู่ที่ไหน วัดมีหลายศาลา ในที่สุดก็เจอ สมัยก่อนเรากลัวมากเรื่องการเดินผ่านโลงฯ ตอนนี้ดีมากไม่มีอาการอะไรเลยมองได้เพราะไม่ปรุงแต่งไม่แปล มันเป็นโดยอัตโนมัติ เห็นคือเห็น (อันนี้มารู้ตัวเอาตอนกลับมาแล้ว ว่าเราไม่มีอาการเหมือนก่อนนี้) เดินแวะเข้าไปในศาลา ส่งใจไปทักทายน้าแดงว่าเรามาถึงแล้วนะ แล้วกลับออกมาโทรหาพี่หนุ่ยว่าแวะไปทักทายน้าแดงแล้ว ตอนเย็น พี่หนุ่ยโทรมาบอกว่าเธอมาถึงวัดแล้ว เราและ link ก็ออกเดินจากที่พัก ว่าจ้างวินมอเตอร์ไซด์ให้ไปส่งหนังสือที่ศาลา 1 ลัง 200 เล่มให้ไว้แจกที่ระลึกในงานศพ เราไปเลือกเองที่ร้านหนังสือ 4 หัวเรื่องเป็นหนังสือของท่านพุทธทาส แผนที่ชีวิต  ดับไม่เหลือ  หัวใจของธรรมะ มรณสติกถา (ท่านดุษฎี)...แจกธรรมเป็นทาน น้าแดงจะได้กุศลผลบุญในภพภูมิต่อๆไป


พระท่านแสดงธรรมเรื่องความกตัญญู หลังจากนั้นก็สวดอภิธรรม เสร็จพิธี งานคืนนั้นคุณถาวร... (เจ้าของธุรกิจโรงแรมใหญ่หลายแห่งทั้งภาคใต้ กลาง ตะวันออก) มาด้วย ไม่เจอ 20 กว่าปีท่านเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายสามีมาสู่ขอเรา ท่านผอมไปมาก ทำให้ดูเป็นปกติเพราะสมัยก่อนท่านอ้วนมาก เจอเฮีย pop และหงส์เพราะนัดกันไว้ ส่วน link ไปนั่งคุยกับกลุ่มการไฟฟ้าฯเพื่อนที่ทำงานเก่า ลูกสาวน้าแดงกลับจากออสเตรเลียมาทันดูแลพ่อ ส่วนเจ้าแพรบอกว่าทำใจได้แล้ว..เสร็จงานคุยกันแล้ว pop hong พาไปทานอาหารเย็น ตอนแรกจะไปตะวันแดง แต่เราไม่เอาเพราะเสียงดังไป อยากคุยกันมากกว่าเพราะไม่ได้เจอกันนานมาก เลยเปลี่ยนที่ไปทานอาหารทะเล เห็น หนุ่มคงกะพัน มาสั่งอาหาร มีวัยรุ่นขอถ่ายรูป เราก็มองเห็นเขายิ้มให้ ก็น่ารักดี ดูเด็กกว่าในโทรทัศน์มาก ทานจน 4 ทุ่มเศษ ร้านจะปิด เลยกลับมาคุนที่ที่พักต่อ เที่ยงคืน  จึงกลับ เราได้นอนก็ตี 1 ไปแล้ว

เช้า 19 เตรียมตัวกลับ ก็ตื่นเช้าตั้งใจไปร้านเบเกอรี่ร้านหนึ่งตามแผนที่ แต่เดินไกลแล้วไม่พบเลยกลับ ไปเดินตลาดรอบชุมชนแทน ก็รู้สึกแปลกๆ ไม่ได้เดินบรรยากาศแบบนี้มานานมาก จริงๆควรบอกว่าไม่เคยเดินมากกว่าเคยเห็นในโทรทัศน์  link พาเดินจะหาของกินคนละประเภท เขาอยากทานประเภทเส้นก๋วยเตี๋ยว (ยามเช้านี่นะ!) ส่วนเรามองหาร้านกาแฟ เบเกอรี่ สายตาไม่สามัคคีกัน ตลาดใหญ่มาก ชุมชนใหญ่ แต่กลับไม่มีร้านอาหาร ไม่มีร้านกาแฟ ไม่มีกระทั่งปาท่องโก๋ เลยงงๆ ว่าคนที่นี่ ชุมชนนี้เขามีวิถีแบบใหน ไม่เป็นไร เดินอ้อมวนออกไปเรื่อยๆ ตีกลับมาเจอทางกลับเข้าวัดได้ก็เดินตามทิศทางกลับวัด แวะส่งใจให้น้าแดงอีกครั้งว่ากลับแล้วนะ น้าแดงจะแวะมาเที่ยวที่บ้านเมื่อไหร่ก็ได้ หุหุ

รอเวลาสมควรก็ออกจากที่พักมาสนามบิน มาถึงก่อนเวลามาก นั่งๆเดินๆ จนสมควรแก่เวลาเข้าข้างใน ไม่ดูเวลา เดินดูอะไรไปเรื่อยๆ จนสะดุ้งเมื่อ link บอกว่าไฟแดงเตือนขึ้นเครื่องด่วน ก็รีบเดินไปที่ gate  ปรากฎว่าเห็นหางเครื่องบินออกไปที่ลานบิน หมุนๆอยู่ ตกเครื่อง วา!! ครั้งแรกในชีวิตของทั้งสองคน เลยกลับออกมาตั้งต้นซื้อตั๋วใหม่แพงเอาการ แต่จำเป็น ยังโชคดีที่ไม่ไช่รอบสุดท้ายไม่งั้นต้องค้างคืน แย่เลย ..รอเที่ยวบินอีกรอบ 5 ชั่วโมง นี่เป็นบทเรียนของความเอ้อละเหย เอิงเอย โทษใครบ่ได้..แต่คงเข็ดไปนาน หุหุ

มาถึงบ้านก็ค่ำมากแล้ว แต่ทันดูคุณชายพุฒิภัทร หุหุ

วันนี้ไม่มีอะไร ไปวัด ไปมหาวิทยาลัย วันนี้มีการแนะแนวน้องคงคณะใครคณะนั้น รถยนต์จอดเต็ม ขนาดอจ.ส่วนมากยังไม่ม่ทำงาน จนท.บ่นว่าไม่มีที่จอดรถ เลยสงสัยว่าเด็กปี 1  ปีนี้ส่วนมากใช่รถยนต์เป็นพาหนะหรืออย่างไร  หรือเป็นผลจากรถคันแรกเลยผู้ปกครองใช้สิทธิกัน เปิดเทอมจริงคงรู้ กลับบ้านพักผ่อน