กาแฟที่บ้านเราเอง
ไปวัด เข้ามหาวิทยาลัย วันนี้เห็นดำพรึบว่อนในมหาวิทยาลัย แบ่งเป็นซุ้ม ฐาน เห็นป้ายฐาน 12 ในละเมาะป่าที่เหลือน้อยเต็มที (โค่นไปมากมายแล้ว) ของมหาวิทยาลัย นึกว่ากองโจร เพราะใส่ชุดดำ ปะแป้งขาว เลยลงไปถ่ายรูป บอก link ว่านี่รับน้องมาเป็นอาทิตย์แล้ว ว้ากแล้วว้ากอีก จนสมองส่วนความจำเอย ขี้หูเอย กระเด็นไปหมด เปิดเทอมเวลาเรียนเลยจำอะไรไม่ได้ เข้าหูซ้ายไหลออกหูขวาออกไปหมดเลย ..
วันนี้ดูข่าวเรื่องกาแฟขี้ชะมดกับ link ทำให้หวนคิดถึงความหลังที่ครั้งหนึ่ง link เข้าไปร้านกาแฟเปิดใหม่ชื่อน่าสนใจทำให้รู้ว่าเป็นทางเหนือ ก็เลยเข้าไปลองตามประสาคนชอบลอง และคอกาแฟ ปรากฎว่าพนง.บริการในร้านก็เอาายการมาให้เลือกพร้อมแนะนำ link สนใจกาแฟขี้ชะมดเพราะยังไม่เคยลองและที่นี่ยังไม่เคยมีมาก่อน ก็เลยสั่ง 1 แก้ว พนง.หายไปนานพอควร เรามองไปทางเคาน์เตอร์เห็นว่าพวกพนง.กำลังคุยกัน 3 คน สักครู่เขาก็เดินมาแล้วถามแบบไม่แน่ใจอีกครั้งว่า "พี่จะรับกาแฟขี้ชะมดไช่ไหมคะ" เราบอกว่าไช่ มีอะไรหรือเปล่า เขาบอกว่า มันแพง เราอมยิ้มแบบงงๆ ว่าแล้วเป็นไง ก็เลยถามว่าแล้วเป็นยังไง ราคามันพิเศษหรือ เขาก็บอกว่าค่ะ เลยต้องมาถาม เราก็ถามต่อว่าแก้วละเท่าไหร่ เธอตอบว่า........................แก้วละ 400 บาท หุหุ คราวนี้ยอมรับว่าแพงจริงๆ (นี่เป็นข้อไม่ดีของร้านกาแฟที่ไม่จริงใจ คือไม่เขียนราคาบอกในรายการ) สามีหันมาถามว่าจะกินไหม (ทั้งๆที่เขาเป็นคนสั่ง และอยากลอง) เราเลยบอกว่า ก็อยากทดลอง ก็กิน ไม่เป็นไรเรียนรู้ไป คราวหน้าเวลาได้ยินชื่อนี้จะได้รู้ว่ามันรสชาดเป็นอย่างไร ว่าแล้วก็ตอบให้พนง.สบายใจว่า "เอามาก็แล้วกัน" และถามว่าทำไมมันแพง เขาเลยเอากระป๋องกาแฟมาให้ดู บอกว่ากิโลละเป็นหมื่นบาท โอ้โฮ!! เราเลยบอกสามีว่า "ไม่เป็นไร จ่ายไป ค่ากาแฟ 100 บาท ค่าโง่อีก 300 บาท" ว่าแล้วก็นั่งหัวเราะ...เพราะตอนที่เขากินเราถามว่าเป็นไง เขาบอกว่าเป็นปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีอะไรเด่น เราลองเอามาจิบก็ไม่รู้สึกอะไรพิเศษอีก ทั้งๆที่เราไวต่อสารและกลิ่นพอควร แต่ก็สบายใจเพราะต่อแต่นี้สามีผู้ชอบลองของ จะได้หายอยากลอง ไม่งั้นบ่นไปนาน และก็คุ้มจริงๆเพราะ ร้านกาแฟนั้นเขาผ่านไปผ่านมาแทบทุกอาทิตย์ก็ไม่เคยคิดอยากเข้าไปอีกเลย...ขนาดวันนี้โทรทัศน์แนะนำเขาก็ไม่อยากกินอีก ดีมาก!!