วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

31 Oct: ฝึกดี


 
เช้าตักบาตร อุทิศให้ร.ต.ต. แชน และคณะ ไปวัด link เอาแว่นตาที่ตัดใหม่ให้พระอาจารย์ เห็นหนังสือจิตตนคร ฉบับการ์ตูนเล่มใหญ่เลยขอมาอ่าน กลับมาสแกนดู ส่งให้ link สแกนอ่าน เช่นกัน ก็มีความรู้สึกที่ตรงกัน...........ไว้ มีเวลาอ่านจริงจังก่อนจะได้เปรียบเทียบกับฉบับเขียนปกติอีกครั้ง

วันนี้เพื่อนโทรมาเล่าให้รู้ข่าวว่านายตำรวจสองสามีภรรยาอุตสาห์มาต่อกรรมยื่นคำร้องเพื่อขอขยายเวลาการยื่นฟ้องชั้นศาลฎีกาในคดีที่พวกเขาได้ร่วมกันก่ออกุศลกรรมออกไป เรารับรู้ด้วยใจที่สงสารพวกเขา จริงๆ ต้องบอกว่าเกิดความรู้สึกเวทนาแบบที่ชาวเราเข้าใจมากกว่า ที่พวกเขาไม่ย่อท้อต่อการต่อกรรม ส่งผลกรรมต่อให้รุ่นลูกของเขา กระทั่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ก็คงอยู่ในกองทุกข์ที่ตัวเองก่อมาแต่ต้นไม่ได้ “สุขเกษม” 
ซือฝูเคยสอนเรื่องเกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรหรือผู้ทำกรรมให้ฟังว่าจริงๆคนพวกนี้เราไม่ต้องไปโกรธ เกลียดพวกเขา เพราะใครที่ก่อกรรมกับเรา เราต้องถือว่าเขามีบุญคุณ เพราะเขาเป็นคู่บารมีกับเรา เป็นผู้ฝึกเรา ซึ่งเราเองก็เอาเรื่องนี้ไปขยายอธิบายให้หลายๆคนฟังเสมอ ถ้าวิเคราะห์แล้วมันก็จริงที่ว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิด ให้เราใช้โอกาสเช่นนี้ทดสอบจิตตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ แต่จริงๆแล้วจิตจะดีได้ไม่ได้มาจากการฝึกจิตอย่างเดียว แต่ต้องทำความดี ทำให้สม่ำเสมอ ทำจนเป็น “ปกติ” จะเกิดความสงบเย็น มีอะไรมากระทบก็ไม่กระเทือน หากมันแรงนักอาจกระเทือนแล้วก็เข้าที่ปกติอย่างรวดเร็วเพราะสติ ตัวรู้  ที่มีเป็นปกติจะเข้ามากำกับ เหมือนที่พระอาจารย์สอนว่า "อ่านหนังสือธรรมะ อ่านให้มาก  ให้บ่อย ให้เข้าใจ  สวดมนต์เป็นประจำ จนเข้าเป็นส่วนหนึ่งในจิต อยู่ในจิต จนเมื่อมีอะไรมากระทบ ไม่ต้องเปิดหนังสืออ่านอีกเพราะธรรมะเข้ามาอยู่ในใจ จนเป็นเกราะกั้นสิ่งไม่ดีให้สะท้อนออกไปได้เอง "
ตอนนี้เราเข้าใจสิ่งที่แต่ละท่านได้เคยสอนมาจนหมดและเห็นประจักษ์จริง “ ผลบุญ ผลของกุศลกรรม”  เป็นอย่างไร และสะท้อนภาพอกุศลกรรมที่พวกเขากำลังได้รับ และจะได้รับจากที่หลวงพ่อในป่าได้ทำนายพวกเขาไว้ น่าสงสารจริงๆ กรรมใครก่อไว้ก็ต้องรับ ควรขอบคุณพวกเขาที่เรื่องอกุศลกรรมที่พวกเขาร่วมกันทำใช้เป็นอุทาหรณ์สอนคนหลายๆคน และเป็นตัวอย่างกระตุ้นเตือนให้ หลายคน “ฝึกดี” อย่างสม่ำเสมอ
อกุศลกรรมเป็นของผู้ทำชั่ว วิบากกรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนเลี่ยงไม่ได้ แต่รอดพ้นได้ด้วยบุญและกุศล แต่เราอย่าเป็นผู้ก่อกรรมตอบเขาเป็นพอ ให้หมั่นกรวดน้ำอุทิศบุญไปให้ ไม่ว่าเขาจะได้รับหรือไม่ก็ตาม เราผู้ทำจิตก็ฉ่ำเย็นเป็นพอ หุหุ
วันนี้ก็เขียนหนังสือตามปกติ คิดว่าเนื้อเรื่องคงพอแล้ว จากนี้นำมาร้อยเรียงให้เป็นลำดับ หมวดหมู่  ไม่งั้นไม่ทันส่ง จะได้ทำเล่มต่อไปอีก

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

29-30 oct: ขอตอบท่านชูวิทย์ : คนดี ไม่มีวันตาย


ภาพ kapook.com
 
พยายามไม่เศร้า แต่ก็รู้สึกเศร้า ตั้งแต่เมื่อวานที่รู้ข่าวตำรวจชายแดน ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ และคณะ เสียชีวิตจากการทำหน้าที่เพื่อชาติและความสุขของคนไทย ยิ่งได้ดูจากคนค้นฅน แล้วรู้สึกเหมือนทุกครั้ง คนดีที่สละชีพเพื่อชาติยังมีอยู่ เหมือนที่เคยมีคำกล่าวว่ากรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี  คนเลวที่เบียดบังชาติ  โกงกินทุกรูปแบบ คอรัปชั่น ใช้เครื่องแบบ และตำแหน่งหากิน  สักแต่เกิดมาเป็นคนก็มีมาก พวกนี้ตายไปมีแต่คนดีใจ บางคนเพียงแค่เจ็บป่วยคนยังแช่ง ดีใจไปล่วงหน้าค่อนประเทศ

ขอตอบท่านชูวิทย์ ที่ตั้งคำถามว่า "คนดีเหล่านั้นไปไหน"


เกิดมาก็ต้องตาย แต่การได้ตายอย่างมีคุณค่า ท่ามกลางการยกย่องสรรเสริญในความดี สดุดีในวีรกรรม ส่งทอดความภูมิใจมาถึงครอบครัวลูกหลาน เหลือคุณความดีให้จารึก ให้กล่าวถึงด้วยความเคารพในคุณความดีที่ทำให้กับประเทศและเพื่อนร่วมชาติ นั้นไม่ได้เกิดแก่คนทุกคน กระทั่งบางคนที่รวยล้นฟ้า สร้างกระแสข่าวฟุ้งเฟ้อไร้สาระในแต่ละวัน ขณะมีชีวิตก็ไม่สามารถสร้างความดี เสียสละได้มากเท่าคนเหล่านี้เลย มีชีวิตที่เบาไปวัน ๆ คนดีเหล่านี้ไม่ได้ไปไหน เพราะพวกเขายังถูกจารึกไปชั่วลูกหลานบนแผ่นดินไทยว่าเขาเหล่านั้นคือผู้เสียสละเลือดและชีวิตให้แก่แผ่นดิน เกิดมาไม่หนักแผ่นดิน และพวกเขาคือพวกที่ไม่ว่าจะมาแบบไหน แต่ที่สุดก็สว่างไป ไปอย่างทิ้งความดี ศักดิ์ศรี ความภูมิใจให้ลูกหลาน วงศ์ตระกูลสืบไป ขอคารวะแก่ดวงวิญญาณของท่านเหล่านี้ทุกคน.....คนดี ไม่มีวันตาย
วันนี้เขียนหนังสือทั้งวันแก้งานไดอารี่ เสียเวลามาก สายๆเอกมาช่วยเก็บกวาดใบไม้ เสร็จพลขับมารับพาศรีวันไปหาหมอ แวะไปดูร้านขนมจีนที่ดร.ติ่งแนะนำ ๙ื้อทั้งผัดไทยและขนมจีนมาลองก็อร่อยดี
บ่าย link กลับมาจากกทม. ฝนไม่ตกอบอ้าว

 

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

27-28 Oct: พระเทพสุธี จัดสวดปาฎิโมกข์


เมื่อวาน (28) วันพระ ก็เขียนหนังสือทั้งวัน เย็นพลขับมารับไปวัดเพราะวันนี้ที่วัดจัดให้มีการสวดปาติโมกข์


เราไปวัด และมีฆราวาสที่ไปทำวัตรสวดมนต์เป็นประจำ พระอาจารย์จัดให้มีการสวดปาฎิโมกข์ นิมนต์พระสวดมาจากวัดท่าไทร  มีพระมาร่วมฟังสวด 22 รูป ปกติจะไม่ให้ฆราวาสอยู่ร่วม แต่เมื่อวานเป็นกรณีพิเศษเพราะเป็นคืนสุดท้ายที่พระบรมธาตุและพระอรหันตธาตุจะอยู่ที่นั่น เพราะวันจันทร์ก็ต้องนำกลับไปไว้ที่ชมรมฯ แล้ว ก็เลยมีทั้งพระและฆราวาสที่มากราบบูชาพระบรมธาตุไม่ขาดสาย ท่านจ้อยที่เคยอยู่สวนโมกข์ก็นำญาติโยมมากราบไหว้พระบรมธาตุด้วย (เราไม่เคยรู้จักท่าน แต่link รู้จัก เลยบอกท่านว่าหาก link กลับมาแล้วจะพาไปที่วัดท่าน) เมื่อวานเลยให้ฆราวาสนั่งฟังที่ด้านล่าง กำหนดให้ฆราวาสอยู่ห่างจากที่พระท่านสวดอย่างน้อย 2 เมตร

สวดอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง เสร็จแล้วคุณโยมทั้งหลายที่อิ่มบุญกันทั่วหน้าก็อยู่บูชาพระบรมธาตุต่อ และมีการถวายผ้าป่าบูชาพระบรมธาตุอีกด้วย (เราโชคดีที่ได้มีโอกาสร่วมถวายปัจจัยแด่พระสวดปาฎิโมกข์)

โอวาทปาติโมกข์ เป็นหลักคำสอนสำคัญของพอรหันตธาตุ พุทธศาสนา เป็น "ปาติโมกข์" ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงตลอดปฐมโพธิกาล คือ 20 พรรษาแรก เฉพาะครั้งแรกในวันเพ็ญเดือนมาฆะ (เดือน 3) หลังจากตรัสรู้แล้ว 9 เดือน เป็นการแสดงปาติโมกข์ที่ประกอบด้วยองค์ 4 เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งมีเพียงครั้งเดียว

การสวดปาฏิโมกข์คือการสาธยาย ศีล ๒๒๗ ข้อ เป็นภาษาบาลีล้วนๆ ตั้งแต่ข้อ ๑ ไปจนกระทั่งจบหมดทุกข้อ และต้องสวดไม่ให้ผิด จะมีผู้คอยตรวจทานไม่ให้สวดผิด หากสวดผิดก็ต้องทักท้วง แก้ไขให้ถูกต้อง จึงจะสวดต่อไปได้ เป็นพุทธบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์ทำอุโบสถสวดพระปาฏิโมกข์ขึ้นทุกวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ เป็นการอนุเคราะห์ให้พระสงฆ์ทบทวนพระธรรมพระวินัยที่ได้ประพฤติปฏิบัติมา โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้สวด พระภิกษุที่เหลือเป็นผู้ฟัง

ธรรมเนียมการฟังพระปาฎิโมกข์
......เนื่องจากการฟัง การฟังพระปาฎิโมกข์เป็นกิจสงฆ์ที่สำคัญ และเป็นสังฆกรรมเฉพาะพระภิกษุเท่านั้น แม้สามเณรก็เข้าร่วมไม่ได้ ในระหว่างที่กำลังสวดพระปาฏิโมกข์ หากมีผู้มิใช่ภิกษุเข้ามาในหัตบาส (ระยะหนึ่งศอก) ต้องเริ่มสวดปาฏิโมกข์ ใหม่ เพราะเป็น "สังฆกรรมวิบัติ"

.....ในปัจจุบันบางวัดที่ถือเคร่งต้องปิดโบสถ์สวดพระปาฏิโมกข์ เพราะเกรงผู้สวดพระปาฏิโมกข์จะต้องอาบัติ เนื่องจากมีผู้มิใช่ภิกษุได้ยิน แต่บางวัดก็เปิดโบสถ์ตามปกติ เพราะถือเจตนาว่าสวดปาฏิโมกข์ให้ภิกษุฟัง ไม่ได้สวดให้ชาวบ้านฟัง ถ้าชาวบ้านเผอิญผ่านมาได้ยิน หรือเห็นก็ไม่เป็นไร เพียงอย่าให้ล่วงเข้ามาในหัตถบาสเท่านั้น บางคนจึงมีโอกาสได้เห็นพระสวดปาฏิโมกข์

 
พระผู้สวดปาติโมกข์

 


 
 
 
บน สองท่านผู้อยู่เฝ้าพระบรมธาตุทุกคืน
 
 
 ท่านภาส เมตตามาเป็นประธานสงฆ์ในคืนนี้

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

26 Oct:ชีวิตนี้น้อยนัก

 
วันนี้อยู่บ้านทั้งวัน เขียนหนังสือ บ่ายง่วงมากๆๆเลยแอบงีบ สงสัยเมื่อเช้าตื่นเช้ามากไปหน่อย

วันนี้เขียน พระเทพสุธี นำคณสงฆ์ภาค ๑๖ ไปร่วมงานสวดพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จเกี่ยว ที่วัดสระเกศ
http://meecorner2.blogspot.com/2013/10/16.html

เย็นชินส่งงาน diary มาให้ เห็นแล้วเหนื่อยใจ เลยตั้งไว้ก่อนยังไม่ทำอะไร ไว้พรุ่งนี้สมองโปร่งค่อยว่ากันใหม่


วันนี้ดูข่าวเป็นระยะๆ ได้ยินการสัมภาษณ์สองข่าว ฟังแล้วคิด คิดย้อน นึกย้อน ใช้สิ่งรู้เก่ามาจับแล้วก็รู้สึกอึดอัดใจสงสารคนตอบ คนถามไม่รู้หรอกเพราะพวกเขาเป็นคนรุ่นใหม่ รู้สึกอะไรก็เท่าที่เฉพาะเห็นจากข้างนอก แต่คนที่เคยรู้และรับรู้ก็แปลกใจ สงสารคนตอบว่าปั้นน้ำเป็นตัว ไม่เหนื่อยหรืออย่างไร ไม่รู้ใจคนตอบทำได้ยังไง ไม่อึดอัด ยังตอบเป็นฉากๆแบบหน้าตายิ้มแย้ม ...ประเภทนี้น่ากลัวมาก

เห็นภาพข่าวการร้องให้ อยากจะให้พวกเขาคิดได้จังว่า บางครั้งการตาย เป็นเรื่องน่ายินดี ไม่ไช่เรื่องหน้าเศร้าเสมอไป หากการตายนั้นเป็นการพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง บางครั้งการตายเป็นเรื่องไม่น่ากลัว ไม่น่าเศร้าเลย ความดีที่สะสมไว้มาก จะนำพาไปสู่สุคติภพ ที่สงบ สบาย อิสระกว่าในภพมนุษย์เสียอีก .....ดังนั้นเราที่ยังมีลมหายใจอยู่ก็ควรเร่งสะสมความดีให้เพิ่มขี้นทุกๆวัน วันละเล็กน้อย ละลด กิเลส หันมาอยู่กับจิตของตัวเองให่มากขึ้น เพราะเวลาไปเราไปคนเดียว ที่ติดตัวไปก็แต่บาป บุญที่สั่งสมไว้เท่านั้น และเหมือนที่รู้กันว่า ชีวิตนี้น้อยนัก มันน้อยจริงๆ

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

25 Oct: ดูข่าว


วันนี้พระอาจารย์อยู่กทม.ไปเป็นเจ้าภาพงานศพของสมเด็จเกี่ยวในนามของคณะสงฆ์ภาค ๑๖

เอกมาบ้านต้มตับมาให้เด็กๆ happy สุดๆแต่ละตัว ฝนตกหนักเลยไม่ได้ทำอะไรมากนัก ตั้งใจจะให้กวาดใบไม้ที่หล่นมากเลย

วันนี้ก็ตามดูข่าวสมเด็จพระสังฆราช ฟังที่ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์คนที่มาในงานทั้งหลาย ดูภาพก็เห็นคนไทยมีใจศรัทธามาก ยึดมั่นก็มาก แต่ก็แปลกใจถ้าเป็นคนพุทธมากขนาดนี้ทำไมยังต้องแบ่งแยกทะเลาะกัน ทำไมยังเบียดเบียนกันมากอยู่ ทำไมคนที่มียังไม่เพียงพอ ทำไมยังแยกแยะชั่วดีไม่ค่อยได้ ทำไม..จริงๆไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่การปฎืบัติ ความประพฤติบางครั้งมันขัดแย้ง อยากให้คนไทยส่วนมากอยู่กันอย่างสงบสุขเหมือนสมัยรุ่นปู่ย่า ตายาย

ฝนตกหนักมาก แต่ไม่นาน อากาศเลยไม่เย็น
วันนี้เขียนงานได้เยอะ

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

24 Oct: พระบรมสารีริกธาตุ/ พระสังฆราชสิ้นพระชนม์


พระบรมสารีริกธาตุ
 
เช้าไปวัด ฝนตกหนักมาก เลยไปรับอาหารบินฑบาตรของพระอาจารย์ และเณรไปถวายที่วัด ไปกราบพระบรมธาตุ ได้บูชาพระบรมธาตุมาไว้เป็นมงคลที่บ้านทั้งหมด 45 องค์ด้วย

วันนี้เขียนพระบรมสารีริกธาตุ ที่
http://meecorner2.blogspot.com/2013/10/blog-post.html

ตอนสายพลขับมารับ link

บ่ายทำงานกับชินเป็นระยะๆ ส่งรูปแบบไดอารี่มาให้ตรวจ  เราส่งปกไปให้ ทวงงานปฎิทิน ลุงบอกว่าเราไม่รีบ เป็นงั้นไป



โทรทัศน์เพิ่งออกข่าว แถลงการณ์การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสังฆราช ว่าทรงสิ้นพระชนม์เมื่อ  19.30 น หลังจากที่ทะยอยออกแถลงการณ์ตั้งแต่เมื่อวานเป็นระยะๆ ขอทรงสู่สุคติภพเบื้องหน้า

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

22-23 Oct: เขียนงาน


สองวันนี้ก็ยุ่งๆกับการเตรียมวัตถุดิบของทั้งหนังสือและไดอารี ชินทวงมาก็เลยเตรียมข้อมูลให้ก่อน หยุดเขียนไปสองวัน วันนี้ส่งรูปและข้อมูลอื่นที่ควรมีไปเรียบร้อยเหลือแต่รูปคั่นอย่างเดียว ต้องหาต่อ ส่วนมากเสียเวลากับการค้นหามากกว่าการเขียน พรุ่งนี้เขียนต่อ

เมื่อวานกีแวะมาหาตอนเย็น เล่าเรื่องหลายเรื่องเพราะไม่คุยกันนาน เพิ่งรู้ว่าไทเกอร์ ตายแล้วเพิ่งตายได้สองสามวัน she จำได้ไม่แน่นอน แต่ก็ยังดีที่กีไม่เอาเกอร์ไปทิ้งถังขยะ ยอมฝังในบ้าน ไทเกอร์น่าสงสารมากเพราะกีไม่ชอบนิสัย แต่เราชอบเพราะมันจริงใจดี น่ารักแม้ว่ามันจะหนวกหูมากไปหน่อย เฮ้อรู้จักกันมาหลายปีก็ใจหาย อาทิตย์ก่อนเราตั้งใจจะเอาขนมเปาไปให้มันกินตอนที่กีไปเที่ยวสามวัน ก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีของเราที่ ตั้งใจดี แต่ปฎิบัติช้าเสมอ หลายครั้งที่สายเกินและก็ไม่รู้จักทำตัวใหม่เสียที ตั้งใจแล้วควรทำทันที ต้องคอยเตือนตัวเองบ่อยๆ บางครั้งเห็นคนจะมีเรื่องก็ปากหนัก ขี้เกียจพูดยังไงยังงั้น จนเขามีเรื่องแล้วก็บ่นกับสามีว่าเสียใจจังวันก่อนนั้นลืมบอกคนนั้นเขาก่อน.....แต่ก็มักคิดว่าคนนั้นเขาอาจติดกรรม หรือยังไม่ถึงเวลา เราเลยปากหนักเฉยๆ..เมื่ัอไม่นานเจอพี่รู้จัก
เห็นหน้าแล้วรู้สึกบางอย่างจนถึงวันนี้ยังติดภาพเธออยู่ อยากพูดอะไรบางอย่างแต่เวลาไม่อำนวยเลยเงียบ แต่แปลกที่อยู่ดีๆก็คิดถึงหน้าของเธอคนนั้นขึ้นมาอีก..หุหุ

วันนี้บ่ายรู้ข่าวเศร้า แต่เป็นธรรมดาของชีวิตที่ทุกคนต้องไปถึง ไม่ช้าก็เร็ว คนก็น่าจะปลงๆทำใจกันได้
บ่ายคุณยอดบวช...รู้ว่าแปะไป กีไม่ได้ไป ??

บ่ายแก่ๆท่านสีทนโทรมาหา link แล้วคุยกะเราต่ออีกยาวววว ท่านก็ยุ่งกับเรื่องเรียนเช่นกัน เราก็บ่นเรื่องความไม่รับผิดชอบของพระอจ.ดร.บางรูปในมจร.ที่ทำให้นักศึกษาเสียเวลาไปเป็นเดือนเพราะความไม่ใส่ใจ รับงานมาก จนไม่คิดถึงว่านศ.เขาเสียเวลาไปกับความไม่รับผิดชอบของท่าน และไม่ไช่ครั้งเดียวที่ทำเช่นนี้ ปกติมีแต่อจ.ต้องกระตุ้นเตือนนักศึกษา แต่นี่นศ.ขยันแต่อจ.กลับไม่มีเวลาตรวจงานแถมมั่วเวลาอีก แย่จริงๆ..ท่านรู้หรือไม่ว่านี่ท่านก็ผิดศีลข้อ 4 อยู่

วันนี้คุณวชิระมาเอาเอกสาร ชวนคุยเสียยาว นานๆคุยกันที


วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556

21 Oct: แค่คิดก็เกิดกรรม


เช้าไปวัด ตั้งใจเอากล้องไปถ่ายงานสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ แต่มีพระหลายรูปมาสักการะพระอาจารย์  link เลยต้องอยู่สนทนาด้วย เราช่วยเก็บของที่ยังไม่เรียบร้อยให้เข้าที่ พระอาจารย์ต้องรีบเดินทางไปประชุมเจ้าคณะอำเภอที่นครฯต่อ เราและ link เลยกลับ ไม่ได้แวะไปถ่ายภาพเพิ่ม วันนี้เลยยังไม่เอาภาพลง พรุ่งนี้จะไปเก็บภาพเพิ่มติม แล้วคงเอามาเขียนบันทึกไว้

บ่ายฝนตกหนักมาก คืนนี้กบเขียดร้อง แต่ไม่มากเหมือนก่อน สงสัยถูกงูกินไปเยอะ หุหุ...วันนี้ก่อนจะกลับเห็นไม้ท่อนกิ่งไม้ยาวเมตรเศษหลายสิบท่อนวางอยู่เลยถามพระอาจารย์ว่าใช้ทำอะไร ท่านบอกว่าไม่ได้ทำอะไร จะเอาก็เอาไป เราเลยขอท่าน 2 อัน ในใจตอนที่ขอท่อนกิ่งไม้ เผื่อเอาไว้ตีงู (อีกแล้ว)  เพราะถ้าหมาเจองูก็ต้องช่วยหมา แม้ไม่อยากตีก็ต้องทำถ้าเจองูเห่าอีก... link เอาใส่รถ เราก็เดินไล่เจ้าเรโอ (หมา) ให้เข้ากุฎิ ข้อเท้าเลยแพลง คิดว่าไม่เป็นอะไร ก็ไม่เจ็บมาก กลับบ้านก็ไม่เป็นอะไร จนบ่ายที่ฝนตกหนักลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง ปรากฎว่าเจ็บข้อเท้า แปล้บตอนเหยียบพื้น รู้ว่าอักเสบ ทายา ไม่ดีขึ้น แย่กว่าเดิม นึกได้เอาน้ำแข็งประคบ ดีขึ้นมากเลย แล้วก็นั้งนึกว่าเอ! ทำไมหนอต้องกะแผลกๆ อีกแล้ว นึกได้ว่าสงสัยคิดจะตีงูเมื่อเช้า เดินขาพลิกแพลงทันที แบบนี้เรียกว่า แค่คิดก็เกิดกรรม หุหุ

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

20 Oct: วันชักพระ



เช้ามืดไปช่วยงานพระอาจารย์พระเทพสุธี รับพุ่มผ้าป่า link ไปกับพระอาจารย์ เราไปกับพลขับเพราะเป็นกองหลังช่วยกันเก็บพุ่ม ตอนเช้าใจคอไม่ดีกลัวฝนตกสงสารขบวนแห่ และชาวบ้านที่จะออกมาร่วมใจกันกันทำบุญ ส่งเสริมประเพณี บ่นขอเทวดา ตลอดทางว่าเมตตาฝนอย่าตกเลย ให้คนได้ทำบุญกันเต็มที่..ปีนี้พระอาจารย์ได้พุ่มที่หน้าศาลากลางเลยโชคดีเป็นจุดที่รถพนมพระจอดตั้งขบวน ทำให้ได้เดินเอาเหรียญที่สะสมมาตลอดไว้ทำบุญถูกนำมาใช้ใส่ลงในบาตรข้างรถ แต่ใส่ได้ไม่กี่คันเพราะรถขบวนมากมายและสวยๆ เดินหยอดเหรียญไป ก็ชื่นชมความงามไป เลยใช้เวลาพระอาจารย์ชักพุ่มเสร็จ เราก็ต้องรีบไปต่อ..

ชักพุ่มเรียบร้อยกลับมาจัดอาหารถวาย ที่เหลือพระอาจารย์สั่งว่าให้เอาแจกจ่ายไม่ต้องเก็บอะไรมากนัก เราเลยเก็บเฉพาะลิง (ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ผืนกลาง)บางผืนไว้เช็ดโต๊ะ ส่วนใหญ่เป็นผ้าไม่มีคุณภาพ บางมาก เก็บผงซักฟอกและของใช้เล็กน้อยไว้ให้พระอาจารย์ใช้ เก็บมาม่ากระป๋องจำนวนหนึ่งไว้ให้เณรน้อย นอกนั้นส่งต่อ ปีนี้ดีที่ของกินไม่มากเกินไป และที่วัดมีคนงานก่อสร้างกำแพง เลยทำให้ของสามารถนำไปทำทานต่อได้ สาธุ

ขากลับขับหลบทางลัด เพราะถนนใหญ่รถติด  เลยแวะเข้าไปสำนักปฏิบัติธรรม เพราะเคยผ่านปากทางหลายครั้งไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน และเคยตักบาตรพระที่เดินบิณฑบาตร เข้าไปลึกประมาณ 200 เมตร ถนนไม่ดีนัก ไม่มีบ้านคน แต่มีโกดังเก็บของ ถึงสำนักปฎิบ้ติธรรมเห็นกระท่อมเล็กๆเก่าๆสิบกว่าหลัง เป็นของธรรมกาย ก็แปลกใจว่าทำไมเก่ามาก เห็นพระและมีโยม 1 คน link ลงไปคุย และทำบุญถวายปัจจัยไปจำนวนหนึ่ง เราอยู่ในรถ สอบถามได้ความว่ามีพระมาอยู่ที่นี่ 14 รูป สามเณร 1 รูป กลับออกมาระหว่างทางเจอหมาพันธ์ชิสสุสกปรกเป็นผ้าขี้ริ้วสังคัง ตัวเล็กขาวดำ นึกถึงชาบู เลยจอดรถเอาข้าวห่อวางให้กิน ให้ชาบูรับบุญไป...

กลับถึงบ้านเกือบบ่ายสองยังคงปวดห้วอยู่ ปวดตั้งแต่ในวัดหลังจากจัดของ กินพาราแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้นเลยนอน ตลอดบ่าย ก็เพิ่งรู้ตัวอีกนอกจากเมาคนแล้วตอนนี้เพิ่มเมาของอีกด้วย

เอารูปการชักพุ่มบางส่วนมาลงก่อน งานบูชาพระธาตุจะมาลงพรุ่งนี้

เช้ามืดตีห้าครึ่งที่ศาลเยาวชน



ท่านผอ.หัวหน้าศาลมากันครบ
 
 
อิ่มบุญถ่ายรูปร่วมกัน
 
 
พระเทพสุธี รับพุ่มที่หน้าศาลากลางจังหว้ด
 
 



ระหว่างรอความพร้อม สนทนากับนายกอบจ.คนใหม่

 
ปีนี้อบจ.ทำพุ่มสวยดี ทั้งสีและมิติ หากจะดีกว่านี้ก็ควรมีข้อคิดคติธรรมประกอบด้วยก็ดี
 
 
ชักพุ่มที่บ้านโยมต่างๆ
 

 

 
 
อิ่มบุญกันทั่วหน้า ขออนุโมทนาสาธุ เจ้าค่ะ :)

 
 


วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

19 Oct: เตรียมงานบูชาพระธาตุ

เช้าไปวัด ไปให้กำลังใจท่านกอบที่นำคณะจัดงานบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุ แล้วรีบกลับมาเขียนหนังสือต่อ รถเริ่มติดแล้วเพราะถนน one way จัดงานชักพระทอดผ้าป่า เย็นไปวัดเราสวดมนต์ได้ไม่นานก็รีบกลับเพราะนึกได้ว่ายังไม่ได้ปล่อยเจ้าซันวาออกมาตัวเดียว   link ไปถ่ายภาพในพระอุโบสถ และงานเปิดชักพระสวยงามมาก พรุ่งนี้เอารูปมาลง เพราะคืนนี้ net ช้าพอควร

วันนี้ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากสนพ.ใดๆเลย

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

18 Oct: ไดอารี่


เช้าไปวัด รีบกลับมาทำหนังสือต่อ มีความคืบหน้าของไดอารี่ ตกลงราคา ราคาก็ไม่ถูกนักแต่คิดว่าน่าจะมีคุณภาพ เอาดีไว้ก่อนพระอาจารย์จะได้สบายใจเวลาให้ ต่อจากนี้ก็ต้องเริ่มด้วยช่วยกันออกแบบในรายละเอียดจนกว่าจะลงตัว คงเป็นอาทิตย์

เขียนหนังสือทั้งวัน ทำคู่ขนาน วันนี้ยังไม่ได้ข่าวปฎิทินเลย คุณลุงทำงานช้าจัง



วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

16-17 Oct: รอ


เช้าไปวัด รีบกลับบ้าน เขียนหนังสือต่อ สลับกับวางแผนการจัดหน้าเอกสาร ออกแบบไดอารี่ เมื่อวานออกแบบปฎิทินเสร็จเรียบร้อย ส่งไปให้สนพ. ลงรายละเอียด และคำนวนราคา เย็นนี้ส่งแบบไดอารี่ไปให้คำนวนราคา ตอนนี้เลยเสร็จ 2 งาน รอแต่รับแบบ และรอราคา

เราเองก็ต้องเร่งเขียน งานไม่จี้ สมองไม่แล่น นี่ก็เป็นความแย่ของเราชอบงานร้อนๆ หุหุ
วันนี้ฝนตกไม่มาก แต่ดีลดร้อนลงมาหน่อย

เช้านี้ดูเปาบุ้นจิ้น ..ชอบทุกชุด มีตอนหนึ่งที่ท่านเปาพูดกับจั่นเจาว่า "ผึเมื่อพบเจอคนดี มันยังต้องถอยห่างออกไป 3 ก้าว แต่คนชั่วมันน่ากลัวกว่าผี เพราะมันไม่รู้อะไรดีชั่ว" นี่คงเป็นเหตุให้คนดี ที่สามารถแยกแยะดีชั่วได้ ต้องแยกตัวเองออกจากคนชั่ว หากไม่พยายามแยก ก็อาจต้องทนดมกลิ่น คลุกกลิ่น ยังไงๆกลิ่นนั้นก็ต้องติดตัวไม่มากก็น้อย ชีวิตนี้สั้นนัก..ชีวิตที่เหลือก็ควรใช้ปัญญาพาชีวิตออกจากจุดนั้น..ไม่มีทางตันในชีวิตเราหากเรารู้จักก้าวเดิน

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

15 Oct: เร่งงาน



เช้าไปวัด ปรึกษากัพระอาจารย์เรื่องรูปแบบของหนังสือ ไปคุยต่อกับท่านกอบ เอาลายย่ามไปให้ดู เอาตัวอย่างไดอารี่ไปให้ดู และคุยเรื่องอื่นๆต่อ ไปติดต่อถามราคาอาหารบางรายการเป็นข้อมูลเบื้องต้น


กลับมาเขียนหนังสือต่อ ช่วงนี้ปิดเทอมไม่ต้องสแกนนิ้วแล้ว  ทำให้ช่วงทำงานเรายาวขึ้น ต้องเร่งงานหน่อยช่วงนี้

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

14 Oct: ประชุม1


14 ตุลาคม ขอคารวะดวงวิญญาณวีรชนผู้รักชาติทุกท่าน

เช้าไปวัด กลับบ้านอ่าน/เตรียมบทความต่อ

เย็นเราและ link ไปประชุมที่วัด พระอาจารย์เรียกประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจก่อน brain storm นึกว่าไม่กี่รูป/คน ปรากฎว่า 11 รูป 4 คน ชั่วโมงเศษก็พอได้ภาพรวม รู้ลำดับงาน รู้การเตรียมของที่จะต้องใช้ ที่สำคัญประมาณการงบได้ ก็สบายใจไปส่วนหนึ่ง...เราอยู่ฝ่ายหนังสือ ก็ต้องเร่งงานแล้ว..เดือนหน้ามีประชุมติดตามงานอีกครั้ง



วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

13 Oct: คนโบราณ


เช้าไปวัด แวะไปคุยปรึกษากับท่านกอบยังไม่ลงตัว แต่มีโยมมารับไปงาน เลยค่อยต่ออีก..แวะไปซื้ออาหารเจร้านโปรดมาสะสม แต่ตอนนี้เปาเจ ของเซเว่นหมดไปตั้งแต่สองวันที่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าหมดเร็วขนาดนี้

กลับบ้านร่างโครงร่างหนังสือสองเล่มที่ต้องทำคู่ขนาน

วันนี้ดูบ้านนี้มีรัก รู้สึกได้เลยว่าเนื้อเรื่องเริ่มแย่แล้ว มีความรุนแรงในครอบครัว แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ไม่เป็นแบบชื่อเรื่องเสียแล้ว ในที่สุดละครไทยก็หนีไม่พ้นการใช้กำลัง ความรุนแรง มากกว่าเหตุผล และปัญญา ก็ไม่ต้องแปลกใจที่สังคมเราเยาวชนก้าวร้าว รุนแรง ขาดวินัย ไร้เหตุผลมากขึ้นทุกที เพราะสื่อที่ผู้ใหญ่ช่วยกันถ่ายทอดให้เขาทุกวัน ในทุกด้าน บางรายการวันหยุดที่เอาผู้หญิงมาแสดงออก ให้ผู้ชายเลือกบ้าง เลือกผู้ชายบ้าง ดูทันสมัย ตามยุค ตามวัฒนธรรมฝรั่ง แสดงออกทั้งท่าทาง และคำพูดเชิญชวน ท้าทาย ฟังแล้วตอนแรกก็นึกว่าถ้าพ่อแม่เขาเห็นลูกสาวแสดงออกอย่างกล้า_ แบบนี้จะรู้สึกยังไง แต่มาคิดอีกทีว่า เขาคงไม่คิดอะไรกันแล้วในยุคนี้นอกจากลูกล้ำสมัย
แต่เราละอายแทน เพราะเป็น คนโบราณ และรายการเหล่านี้เราไม่เคยดู วันนี้เปิดผ่านหยุดดูเพียง 1-2 นาทีก็รู้สึกถึงความกล้าแสดงออกของแต่ละนางยุคใหม่ แล้วก็เฮ้อ!! คิดทันทีว่าอะไรทำให้พวกเธอต้องเป็นเช่นนั้นหนอ?? ...สื่อผู้จัดก็คงไม่คิดอะไรมากนอกจากสนุกสนานรับทรัพย์เมื่อจบรายการก็แค่นั้น ใครจะรับผิดรอบต่อความถดถอยทางวัฒนธรรมไทยในอนาคตหนอ

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

12 Oct: เยี่ยมหลวงพ่อ


เช้าไปแวะซื้ออาหารเจเก็บกักตุนไว้เผื่อหมดเจ เลือกเฉพาะสูตรที่ทำเองไม่ได้ พวกผัดผักใบเขียวไม่ซื้อผัดเองได้ อร่อยด้วย หุหุ ไปวัด

บ่ายไปเยี่ยมหลวงพ่อ เราเอาสูตรอาหารรักษา/ป้องกันต่อมลูกหมากอักเสบไปให้หลวงพ่อทดลองฉัน พระอาจารย์เอาน้ำอย่างดีไปให้ลพ.ลองฉันด้วย

เข้าป่าไปเยี่ยมลพ.ในป่า ฝนตกหนัก ไปครั้งนี้เจอโยมคนแก่ๆ 5 คนเข้าไปขอสมาทานศีล 8 จากหลวงพ่อ โยมนี่ก็เมตตาดี เห็นเรากับ link เขาไม่รู้จักเรานั่งรอลพ.สักครู่ป้าก็หันมายิ้มและถามว่ากินข้าวมาหรือยัง ไปกินที่ห้องครัวได้นะมีกับข้าวเยอะ เรายิ้มตอบว่าทานมาแล้ว และทานเจ ..ว่าแล้วเราก็นึกย้อนไปบางวัดที่มีโยมแต่งตัวดีๆ บางแห่งมีฐานะทางสังคมดี แต่ไม่เคยมีการเชื้อเชิญ ยิ้มแย้มกับแขกแปลกหน้าที่มาเยือน แต่เราจะพบเห็นการทักทาย เรียกทานข้าวจากชาวบ้านๆ ยิ่งที่คนเมืองเรียกว่าบ้านนอกเท่าใด ก็จะพบเห็นน้ำใจมิตรภาพที่ดีเท่านั้น ...นี่ก็เป็นสาเหตุที่เราชอบสังคมในป่า มากกว่าในเมือง และหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหน้ากากอย่างเต็มความสามารถ ไม่มีอะไรที่เราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าเราตั้งใจจะหลีก แต่งานวัดในป่า นอกเมืองมากๆ เราไปร่วมวงเสมอเพราะอิ่มใจ......

นั่งสนทนากับลพ.เกือบชั่วโมงก็ลากลับเพราะให้ท่านพัก เรารู้สึกว่าครั้งนี้ท่านผอมลงไป แต่ยังไม่ทัก วันนี้ช่วงเย็นมีนกนางแอ่นจากภูเขาหรือถ้ำแถวนั้นเข้ามาบินในอาคารตอนที่คุยกัน ตอนแรกนึกว่าค้างคาว พอมันบินเข้ามามากขึ้นส่งเสียงแกรกๆ ลพ.บอกว่านกนางแอ่นมาบินเล่น เราบอกสมัยก่อนที่มาไม่เจอ ท่านบอกว่าเขาจะมาเวียนบินวันพระ หรือวันจะทำบุญใหญ่เช่นกฐิน เป็นต้น

ก่อนกลับเรากระซิบบอกข่าวดีให้ลพ.ทราบ ท่านบอกว่าดีๆ คนที่คิดร้ายเขาจะแพ้ภัยเองเสมอ ไม่ต้องไปกังวล สบายๆแบบที่เป็น  ท่านบอกอีกครั้งว่าไม่ว่าเขาทำอะไรก็แพ้พ่าย ทำอะไรไม่ได้ ขอให้เราดีๆ แล้วท่านก็หัวเราะดังเลย ฝนหยุดตกแล้ว กลับตลอดเส้นทาง วางแผนการทำบุญในรูปแบบต่างๆต่อ ได้ความคิดดีๆเกิดขึ้นหลายอย่าง

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

11 Oct: ไปจ่ายตลาด


เช้าตั้งใจตักบาตรแต่ไม่เจอพระและลูกเณร  ไปจ่ายตลาด..ซื้ออาหารเจ ขนม นานๆไปที (เกือบปีไม่ได้ไป) เลยเดินอุดหนุนซะทั่ว ได้ของมากมาย ยังกะเตรียมหนีน้ำ หุหุ บางคนทักว่าไม่เห็นนานมาก...ไปวัด ตั้งใจจะไปคุยกับท่านกอบ ปรากฎว่าท่านไปเรียน กำลังจะกลับบ้านเจอผอ.และรองฯจาก...มาคุยกับพระอาจารย์เรื่องการเตรียมจัดงานกฐินของวัด และชวนให้เราทั้งสองอยู่คุยด้วย ก็เลยนั่งคุยต่อ โชคดีที่นั่งคุยทำให้ได้ช่วยให้บางเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนให้ชัดเจน พวกเขาก็จะมีการประชุมกันในกลุ่มตอนบ่ายวันนี้ ...

วันนี้เตรียมทำ 5 ส ในบ้าน หุหุ เป็นหนูแจ๋วครึ่งวันหมดแรง บ่ายค้นเนื้อหาเขียนหนังสือของวัด

วันนี้มีข่าวหมอประเสริฐ ที่เขาเรียกหมอเทวดารักษาสารพัดมะเร็ง เสียชีวิตด้วยวัย 93 ปี เมื่อวานคุยกับจนท.ห้องสมุดที่เอาหลานวัย 3 ขวบมาเลี้ยงเพราะแม่เด็กคือลูกสาว ตายปีที่แล้วด้วยวัย 27  ปี เป็นมะเร็งที่ทรวงอก รู้ว่าเป็นได้ 4 เดือนก็ตาย...ชีวิตก็แค่นี้ ใครลิขิตได้

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

10 Oct :ต่างมอง ต่างมุุม...ใบไม้ 1 ใบ


 
เช้าไปวัด ไปมหาวิทยาลัย จัดการเอกสารที่สะสมมาทั้งเทอม เก็บให้แม่บ้านชั่งกิโลขายเป็นค่าขนมลูกเขา      วันนี้ได้โอกาสเขียน
 " ต่างมอง ต่างมุุม...ใบไม้ 1 ใบ"
 http://meecorner2.blogspot.com/2013/10/1.html

ไม่อยากให้หลายๅคนติดบาป ที่ไปวิจารณ์อะไรมากมาย กรรมเป็นของแต่ละผู้นามอยู่แล้ว อะไรที่เขาร่วมกันทำมา และจะทำต่อไปก็เป็นกรรมของเขา อย่าเอามาเป็นกรรมของเรา และอย่าถึงกับจิตตกจนมองพระสงฆ์ที่มีอยู่อย่างหวาดระแวงไปหมด วิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เสื่อมศรัทธาในศาสนา ทั้งที่เป็นเรื่องของคน 2 คน (มิตซูโอะ ชิบาฮาชิ กับ นางสุทธิรัตน์ มุตตามระ)   เท่านั้นเอง

พระภิกษุสงฆ์ที่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ สืบทอดพระพุทธศาสนามีอีกมากมาย เราในฐานะพุทธมามกะ ก็ขอให้มีจิตที่แน่วแน่ในการศึกษา ปฎิบัติตามคำสั่งสอน และช่วยกันทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา รวมทั้งสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าให้ท่านได้สืบทอดพระพุทธศาสนาไปยาวนาน อย่าไปเสียดายกับใบไม้ที่ร่วงหล่นเพียง 1 ใบอยู่เลย

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

9 Oct: ส่งเกรด


เช้าไปวัด ไปมหาวิทยาลัยจะรีบตรวจแล้วตัดเกรด  3 วิชา ปรากฎว่าสุเชฐมาคุยเรื่องงาน จากนั้นดร.กรณ์เข้ามาแจมเรื่องเลยยาวววววจนบ่ายสอง รีบตรวจที่ค้าง ตัดเกรดเสร็จตอนบ่ายสี่โมง เด็กติด  E  8 คน วิชาเคมีสวล. พิษวิทยาผ่านหมด มลพิษได้ D ทุกคน จริงๆตกทุกคน แต่เห็นว่า E มาแล้ว และคราวนี้ได้ 47-49  เลยปล่อย นึกถึงซือฝูที่บอกว่าเมตตาๆๆๆ แต่ที่ติด E เคมีนั้นช่วยไม่ได้จริงๆเพราะช่วยให้ติด  I  6 คนแล้ว ไม่งั้น E เป็นสิบ......

เสร็จไปหนึ่งงาน อีก 3 งานด่วนจ่อคิว งานแรกของเราเอง อีก 2 งานของพระอาจารย์ ยังไงต้องตะลุยงานของวัดก่อน ของเราพับเก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน

วันนี้คุยกับจนท.วิทย์คนใหม่ ก็ไม่น่าห่วงมากนักเพราะดูเป็นผู้ใหญ่ไม่ไช่วัยรุ่นวุ่นวาย คงแก้ปัญหาต่างๆได้

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

7-8 Oct: ย้ายโต๊ะ


เมื่อวานไม่ได้เข้ามาบันทึก มีหลายงานเข้ามา เสร็จเลยพักผ่อนเลย (นอน หุหุ) ไปตรวจสุขภาพประจำปีชุดใหญ่  ฟังผลตอนเย็น ผลที่ได้ดีครบชุดเป็นปกติทุกค่า มีค่าเดียวที่เราต่ำกว่าปกติตั้งแต่วัยรุ่น ตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น อันนี้ทำให้บริจาคเลือดให้ใครไม่ได้ เพราะทดสอบแล้ว เม็ดเลือดลอยตุ๊บป่องๆ หุหุ หมอก็ขอให้กินธาตุเหล็กแทน เพราะเราไม่กินตับ

วันนี้พนง.วิทย์ มาทำงานวันแรก สุเชฐให้นั่งที่ห้องรวมก่อน เราตั้งใจจะให้นั่งที่ห้องที่โบเคยนั่งจะได้ไม่อึดอัด ไม่เป็นไรไว้ค่อยขยับขยาย

บ่ายเริ่มเฉลย ตรวจข้อสอบ รู้สึกโต๊ะทำงานจะเล็กไป มีหลายงานค้าง ในที่สุดตัดสินใจฉับพลัน ย้ายโต๊ะ!! เอาโต๊ะใหญ่มาทำงานเขียน โต๊ะกลมเล็กเอาไปใช้นั่งทำงานเล็กๆแทน ใช้เวลาย้ายเกือบ 3 ชั่วโมง เพราะต้องทำการทิ้งๆๆๆกระดาษที่สะสม ...จากนี้ไปมีงานร้อนๆที่ต้องใช้สมองทำมากเลย..อยากเป็นทศก้ณฑ์อีกแล้วจะได้มี 20 มือ หุหุ

วันนี้ซื้ออาหารเจมากักตุนไว้เยอะเลย กลัวอด

อ่านเรื่องนี้แล้วโดนใจ ถูกใจ จะเอาไปสอนสำนึกให้เด็กไทยด้วย

"ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ เขียนบทความตอบ ดร.โสภณ กรณีเขื่อนแม่วงก์"

http://hilight.kapook.com/view/92054

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

6 Sep: ลิงเกาหลัง


เช้านี้ได้ตื่นสาย วันนี้คณะสงฆ์หนใต้ ทั้ง 3 ภาค ไปร่วมเป็นเจ้าภาพสวดบำเพ็ญกุศลถวายสมเด็จเกี่ยว

ฝนตกทั้งวัน อากาศเย็นสบาย อ่านตรวจงานวิจัยนศ. เจอที่ละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา เฮ้อ!! เป็นเรื่องน่ากลัวมากของนักวิจัยเราตั้งแต่ระดับอาจารย์ที่เราเคยตรวจก็เจอ ไม่เคยตรวจแต่ผ่านตาก็เห็น แปลลอกจากตปท.ทั้งดุ้น มาขอทุนแล้วก็ผ่านจากกรรมการระดับคณะเสียด้วย รู้สึกสุดท้ายได้ทุนสกอ.ไป เพราะปกติไม่ค่อยมีใครอ่านอยู่แล้ว เหลืออย่างเดียวจะมีใครบอกทางตปท.ก็ถูกฟ้องแน่นอนเพราะ เขาปรับแต่ตัวเลขเท่านั้น วิธีทุกอย่างลอกมาหมด น่าเศร้ามาก วงการวิจัยที่มีอาจารย์มีพฤติการณ์เช่นนี้ ซึ่งถ้าตรวจติดตาด้วยโปรแกรมลิขสิทธิ์ก็คงจับได้มาก ถ้ากล้าทำจริงจัง ไม่เป็นลิงผลัดกันเกาหลัง ก็จะดี....ตอนที่เป็นนศ.ถ้าอจ.ละเลย ไม่รอบรู้ ไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านง่ายๆ การละเมิด การขาดจริยธรรมฯ เด็กก็จะไปเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบลอกผลงานเหมือนที่เป็นกันมากมาย จนมาเป็นครู อาจารย์ก็ยังขาดลำนึกดี

วันนี้เลยไม่ได้ตรวจข้อสอบ

วันนี้ก้าน แก้วสุพรรณ หรือ นายมงคล หอมระรื่น นักร้องและครูเพลงชื่อดัง วัย 74 ปี เสียชีวิตแล้ว หลายเพลงเราชอบ ขอท่านสู่สุคติ

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

4-5 Sep: วันสารทไทย

 
เมื่อวาน (๔) วันสารทไทย เช้าแวะซื้ออาหารเจใส่ปิ่นโตเตรียมทำบุญ ผลไม้ 2 กล่อง ไปวัด มีคนมาตั้งแต่เช้ามาก เดืนออกไปซื้อข้าวกล้อง เห็นสถานที่พระอาจารย์ พระในวัด และคนงาน ช่วยกันจัดแล้วเหนื่อยแทน แต่ก็ปลื้มใจแทนชาวบ้านที่มาร่วมกิจกรรมแล้วอิ่มบุญกลับไป .......เช้าตายายร้องไห้เหมือนทุกปีที่ตอนเช้าฝนจะตกลงปรอยๆจนตอนเริ่มพิธีฝนจะหยุดตก เราไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นเช่นนี้หรือไม่
 คุณมนตรีนำทำวัดสวดมนต์จน 10 โมงเช้า พระอาจารย์แสดงธรรม นำพระสงฆ์สวดมนต์ กรวดน้ำ ถวายภัตตาหาร และมีการให้ญาติโยมออกไปจัดการวางของอุทิศบุญให้ตายาย บรรพบุรุษ ที่บริเวณที่เตรียมไว้ แล้วกลับเข้ามาด้านในศาลาอีกครั้ง...มีคนนำพุ่มผ่าป่ามาถวาย พระอาจารย์บอกประกาศว่าจะนำไปจะร่วมสร้างกำแพงวัด ก็ได้อนุโมทนาร่วมกัน


เสร็จทานข้าว ไปมหาวิทยาลัยดูว่าประชุมเสร็จหรือยังไปถึงเจอจนท.เขาบอกว่าอจ.มาเซนต์ชื่อเฉยๆก็ได้เพราะไกล้เลิกแล้ว รับเอกสาร 1 เล่ม ขนม 1 กล่อง (อันนี้คืน ไม่รับ) เราก็เลยยืนคุยกับอจ.  3 คนที่กลับเข้ามา แล้วไปรับข้อสอบ เจอหลายคนที่ไม่ได้เข้าประชุม

กลับบ้านฝนตก นอนตั้งแต่ทุ่มเศษ หุหุ เลยไม่ได้บันทึก ทาน paracetamol ตั้งแต่เที่ยง เพราะเมาคน เลยเหนื่อย  aura crash...



เตรียมรับศีล ฟังธรรม
 
 
 
ปิ่นโตเพียบ
 
 
จัดของ /ตักบาตร เตรียมอุทิศบุญให้บรรพบุรุษ
 
ร้านเปตชน
ท่านอานนท์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรับพุ่มผ้าป่า
 
 
นั่งสงบนิ่งอุทิศกุศล
 
 

ที่กรวดน้ำจัดวางอย่างเป็นระเบียบ
 
อิ่มบุญกันทั่วหน้า ปู่ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษ เจ้ากรรมนายเวร เปตชน ทั้งหลาย รับผลบุญที่ลูกหลาน ญาติมิตรอุทิศให้ จบงาน ท้องฟ้าสว่าง