วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

27 Feb: ตนต้องเตือนตน


เช้าไปวัด ไปคุมสอบ แต่งชุดดำร่วมกับมวลประชาชนไว้อาลัยกับการทำรุนแรงจนมีเด็กเสียชีวิต  (3 วัน) ก็มีคนในมหาวิทยาลัยใส่หลายคน แม้ไม่มากนัก อันนี้บังคับกันไม่ได้ สำนึกเป็นเรื่องส่วนบุคคล .....

วันนี้เรื่องคำสั่งกำจัดสุนัขในมหาวิทยาลัย และมีการกำจัดโดยวิธีการที่คนมีมนุษยธรรมรับไม่ได้ ยังคงเป็นอาหารปาก กระซิบคุยต่อๆกัน อย่างน้อยเราก็รู้เรื่องบางอย่างเพิ่มขึ้น แต่ที่แน่ๆมีคนพยายามเข้าไปดูหลุมต้องสงสัย แต่ไปสองครั้ง และมีนศ.ไปด้วยพบว่ามีเจ้าหน้าที่กองกิจฯ ยินเฝ้าแถวนั้น จนแซวกันว่าคงมีเวรผลัดกันเฝ้าหลุมหรือเปล่า ........วันนี้เจอกับคนที่รับเลี้ยงลูกหมาที่เกิดจากหมาตัวที่ถูกยิงยาสลบแล้วพาไปผ่าท้องทันเวลา แต่ลูกตายไป 6 ตัว ปรากฎว่ามีลูกตายเพิ่มอีก ตอนนี้เหลือ 10 ตัวแล้ว เราให้ค่านมข่วยไป 500  บาทก่อน เพราะเขาก็เป็นคนงาน ตอนนี้ถูกลงโทษด้วย เฮ้อ เพียงแค่ทำสิ่งที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ เราบอกว่าแล้ววันหนึ่งกรรมดีจะตอบแทน....

วันนี้เจอดร.นวล ก็คุยกันเรื่องงานวิจัยที่ไม่ถูกต้องของพวกพยาบาล พวกสาธารณสุข ที่ทำไปโดยไม่มีการทำเรื่อง Ethics เลย แต่ในมหาวิทยาลัยพวกบริหาร พวกกรรมการวิชาการไม่มีใครรู้เรื่องนี้เพราะพวกนี้ไม่ได้รอบรู้อะไรนัก ก็เลยปล่อยให้มีงานวิจัยแบบบกพร่องผ่านและจบออกไป โดยไม่มีใครรู้นอกจากพวกพยาบาลที่คุมงานไม่กี่คน แต่ปกปิดกัน ยังมีเรื่องแบบนี้อีกมากหลาย เพียงแต่สกอ.ไม่รู้เท่านั้น พวกสกอ.ตามไม่ทันหรอก

เพิ่งรู้ว่าเรื่องที่เราปฎิเสธไม่ไปอเมริกา มีการคุยต่อข้ามคณะ ไม่รู้ว่าข่าวออกไปได้ยังไง แต่เขาก็พูดว่าจะหาคนที่มีจุดยืนที่แน่วแน่ มั่นคงในความถูกต้องแบบนี้ยากมาก เพราะแต่ละคนย่อมต้องเอาผลประโยชน์ที่เห็นตรงหน้าก่อน อย่างอื่นไว้ทีหลัง เราก็บอกว่าแต่ละคนมีจุดยืนที่ไม่เหมือนกัน มีมโนธรรมที่ถูกบ่มเพาะมาต่างกัน และการชนะกิเลสได้ ต้องถูกฝึกฝน และการแยกแยะดีชั่วต้องถูกสั่งสอน เรียนรู้มา แต่ที่แน่นอนคือหากใครก็ตามเดินไปในเส้นทางที่ไม่สามารถชนะกิเลสในใจตนแล้วก็ไม่มีใครจะสามารถฉุดกลับมาได้ ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน และเงินภาษีแผ่นดินศักดิ์สิทธื์นัก

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

26 Feb: ชีวิตมีค่าเสมอกัน


เช้าไปวัด วันนี้คุมสอบ เลยได้มีโอกาสเจอเพื่อนฝูงต่างคณะที่บางคนดีใจมากที่เจอเรา มาจับมือทักทายกัน เพราะบางตึกเกือบสองปีที่ไม่ได้ไปเยือน.บางคนแวะไปหาที่ห้องสอบ วันนี้เลยคุยรู้เรื่องแปลกๆในมหาวิทยาลัยเยอะเลย กรรมใดที่ใครก่อย่อมรับกันเอง ไม่ว่าจะหาแพะให้ออกมาแก้ข่าว ไม่ว่าจะหาคนปล่อยข่าว ไม่ว่าจะกลบข่าว หรือกลบหลุม หรือให้ใครเขียนแก้ข่าว แต่ไม่สามารถกลบเสียงซุบซิบที่ดังไปทั่วได้ ยิ่งให้กลบยิ่งดัง เพราะมันคือความจริง บาปกรรมที่ทำไปแล้วเหมือนธนูที่ปล่อยลูกศรออกไปแล้ว แก้ตัวไม่ได้ ต้องแก้ไข และหาทางไม่ให้เกิดคำสั่ง การกระทำเช่นนี้อีก หมาที่ตายเขาก็พ้นทุกข์ไปแล้ว แต่บาปในใจผู้ทำไม่ว่าสำนึกการกระทำนั้นหรือไม่ บาปและอกุศลกรรมยังตามติดเขาและลงสู่ลูกหลาน ยิ่งรู้ว่าคนออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรกำลังจะมีหลานในไม่ช้า ฟังแล้วน่ากังวลใจแทน...เพราะหมาที่ตั้งท้องสองตัวที่ถูกยิงยาสลบ ที่เห็นในภาพ น้ำคร่ำไหลนองออกมาแล้วมีคนช่วยก่อนถูกนำไป......โดยการขอร้องเอาไปหาสัตว์แพทย์จ่ายค่าผ่าท้องหลายพันได้ลูกหมาออกมาสิบกว่าตัว แต่ตายไป 6 ตัว ตัวอื่นๆไม่กล้าขอ...

หมาตัวนี้ก็โชคดี ที่เจอลิงที่มีเมตตา

ในโลกนี้ยังมีเรื่องเศร้าเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่ไม่น่าเกิดในสถาบันการศึกษา ในสถานที่ๆ เป็นที่อบรมบ่มเพาะความรู้ที่ต้องคู่คุณธรรม ที่ต้องสอนให้เยาวชนมีจิตสาธารณะ มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมโลก โลกนี้ไม่ได้เป็นที่เฉพาะสำหรับมนุษย์เท่านั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ใดๆอย่างแท้จริง เกิดแล้วตายๆ วนเวียนไม่รู้สิ้น หมาจึงมีสิทธิ์ที่จะอยู่ร่วมกับคนได้ การจัดการให้เขาอยู่อาจต้องเป็นหน้าที่เราที่ต้องช่วยเขา เพราะเราไม่พอใจเขา จะจำกัดเขา ก็ต้องหาวิธีที่คนพึงกระทำต่อสัตว์ที่ด้อยกว่า ไม่ไช่การกำจัดข่มแหง รังแก เช่นนี้ เราไม่ควรเป็นผู้สั่งตายกับชีวิตเขา เพราะชีวิตเขาเขาก็รัก ทุกชีวิตมีค่าสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของชีวิตเสมอ อยากให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายสำหรับการสั่งการกำจัดสุนัข อย่างไร้ความเมตตาเช่นนี้อีก..และอย่าพยายามแก้ตัวเลย เพราะความจริงก็คือความจริงมันเกิดไปแล้ว แต่ให้แก้ไขเถอะ 17 + 6 ตัว นี้จะได้นอนตายตาหลับ

หมาที่โชคดี ได้อยู่กับเจ้าของที่ทะนุถนอมเมตตาจนวาระสุดท้าย

John-Unger-cradles-his-19-year-old-dog-Schoep-to-sleep-every-night-in-Lake-Superior-so-the-buoyancy-of-the-water-can-sooth-his-arthritic-pain-

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

25 Feb :กรรมตามทันแล้ว


เช้าไปวัด ไปช่วยรับอาหารให้พระเณรด้วยเพราะวันนี้คนวัดเหยียบตาปูบาดเจ็บเดินไม่ได้ ไปมหาวิทยาลัยได้ยินเรื่องเล่าของดอกเตอร์.....ที่ไปคัดลอกผลงานของคนอื่นมาเป็นของตน ขอทุนสกว.ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าสกว.เขาจะรู้หรือเปล่าเพราะงานนี้เจ้าของผลงานตัวจริงรู้แล้วเป็นคนดำเนินการฟ้องเอง ในสถาบันการศึกษาไทยปัจจุบันมีเรื่องประเภทลอกผลงานมาก ตั้งแต่ยังเป็นระดับป.โท ที่ทำงานวิจัยโดยการที่อาจารย์ก็ไม่ได้สนใจคุณภาพเอาแต่ปริมาณเพราะมันคือรายได้ จนขาดคุณภาพ เมื่ออจ.ไร้คุณธรรม เอาเงินเป็นตัวตั้ง รับนศ.มากๆ เพราะมันเป็นรายได้ต่อหัว รับกันอย่างน้อยสิบคน มัเทคนิคที่ทำนอกหลักเกณฑ์ได้อีก ขอทุน ตีพิมพ์ก็ได้เงินจากมหาลัยอีก เอาผลงานนศ.มาก็มี หัวข้อที่เคยเห็นของอจ.คนนี้คือ ทำเรื่องเดียว แต่ทำทุกอำเภอ เช่น สำรวจพฤติกรรมการใชับริการจาก...ในอำเภอ  A, B ,C  แทบจะทุกอำเภอในจังหวัดนี้ นศ.ป.โท ทำหัวข้อเดียวกันหากินได้หลายรุ่น ผลงานระดับป.ตรีก็จบป.โทได้ เห็นแล้วเศร้า แต่ไม่มีใครสนใจเราเคยติงในที่ประชุม ทะลุหูหมา สำหรับที่นี่ไม่สนใจคุณภาพ อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณภาพที่ดีเป็นยังไง เพราะเคยชินกับความไม่มีคุณภาพ อจ.ที่มีคุณภาพกลายเป็นสิ่งประหลาดที่ถูกนินทา ว่าไม่ยืดหยุ่น ไม่ปรับตัว จนถึงคิดว่าโง่ด้วยซ้ำเพราะทำตัวให้ขาดรายได้เอง หากโง่ แล้วรู้จักเงียบ ก็จะงาบได้สบาย น่าสงสารการศึกษาไทย ที่มีสถาบันที่ไม่รู้จักคำว่า "คุณภาพการศึกษาที่ดีจริง" เขาเป็นกันอย่างไร......สำหรับรายนี้ที่ทำไม่ถูกต้องทางวิชาการมานาน หลายเรื่อง หลายโอกาส เราเคยเตือนทางอ้อมโดยยกตัวอย่างให้ฟังน่าจะ 4-5 ครั้งด้วซ้ำ แต่ความที่ไม่เคยมีใครจับได้ หรือไม่มีใครอยากเอาเรื่องเพราะเป็นผลประโยชน์ผิด แลกผลประโยชน์ร่วมกัน ทไให้ได้ใจทำผิดต่อเนื่องมา วันนี้รู้ว่าลาออกจากตำแหน่งที่พยายามมากกว่าจะได้มา  ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเพราะจะได้เป็นตัวอย่างให้อจ.อีกหลายคนจะได้หันมาทำในสิ่งที่ถูกต้องกันบ้าง เกรงกลัวต่อบาปทางการศึกษา สอนเด็กอย่างมีจรรยาบรรณและจริยธรรมเสียที คุณภาพมหาวิทยาลัยจะได้สูงขึ้น กรรมตามทันแล้ว

วันนี้ลำบากหน่อยเพราะขาแว่นหัก เพราะเจ้าศรีวันกระโจน แว่นหล่น ต้องรอแว่นอีกเป็นอาทิตย์ ตอนนี้ใส่เลนส๋เดิมในกรอบใหม่่ชั่วคราว แต่ไม่ชัดเท่าเดิม แถมปวดหัวอีก สงสัยเพราะการบิดของเลนส์โฟกัสเลยเปลี่ยน เขียนบันทึกผิดๆถูกๆ แน่เลย

 ค่ำนี้เห็นข่าวลงคำชี้แจงของมหาลัยแห่งหนึ่งที่ออกมาแก้ข่าวเรื่องการสั่งฆ่าหมาhttp://pet.kapook.com/view82992.html

มึคนอ่านตั้งข้อสังเกตุดังนี้...มหาลัยออกจดหมายเวียนวันที่5 ก.พ. 57ว่าให้จัดระเบียบหมาตัวเองภายในวันที่9 ก.พ. 57 และเริ่มดำเนินการ(กำจัดหมา)เมื่อวันที่22 ก.พ. 57 ที่ผ่านมา
ส่วนรูปที่เอามาชี้แจง รูปที่คนอุ้มหมา ลงวันที่ไว้ 28 มิ.ย. 56 (ปีที่แล้ว)
อีกรูปก็เอาชามข้าวหมามาโฟโต้ช็อปติดไว้
   อันนี้เราไม่แปลกใจเพราะที่นี่เรื่องแก้ตัวกับแก้ข่าวคู่กันเสมอ หุหุ ต้องคิดเองตรองเอง ก็จะรู้ แต่ที่แน่ รอกรรมที่ตามติดดีกว่า

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

24 Feb: จิตตก


 
เช้าเตรียมงาน สายสอน จนเย็น เย็นพลขับไปรับ link กลับจาก BKK  เย็นกลับมาดู อ่าน ฟังข่าว เห็นหลายๆเรื่อง ภาพ  แล้วหดหู่ใจมาก ที่เด็กอายุ 4-6 ขวบเป็นเหยื่อของคนทำชั่ว สงสารพ่อแม่เขามาก ลูกกำลังน่ารัก เห็นภาพ พ่อแม่ร้องให้ปิ่มจะขาดใจ ที่ไม่ไช่ละคร แต่นี่เป็นชีวิตจริง ไม่กล้าเอาใจเขามาใส่ใจเราเลย เพราะทุกข์นี้สาหัสจริงๆ ไม่กล้าคิดด้วยว่าทุกข์มากแค่ไหน เพราะเพียงเห็นภาพ เราต้องรีบทำใจ เอาสมาธิมาข่มอารมณ์ท้นที สงสารเขามาก ไม่รู้จะช่วยบรรเทาทุกข์เขาได้อย่างไรจริงๆ คนทำอำมหิตมากเกิดเสียชาติจริงๆ......

เห็นภาพอีกด้านที่กปปสเอามาเปิดให้ดูว่าอีกฝ่ายพูดปลุกระดมอะไรบ้าง เช่นยุให้มีการทำร้ายกันในทุกรูปแบบ แยกประเทศ ฯ แต่ละคำพูดแย่มากฟังแล้วสงสัยจริงๆว่าเรากำลังอยู่ในภพไหน ไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ได้ ไม่อยากบันทึกไว้เพราะไม่อยากทบทวนอีก แต่เศร้าใจจัง ช่วงนี้สงสัยจะจิตตก ...

เพิ่งนึกออกว่าวันนี้ทำไมเศร้าลึกๆ เพราะตอนสอนนศ.เอาข่าวมาเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยสั่งฆ่าหมาทั้งมหาวิทยาลัยอีกแล้ว ไม่รู้สาเหตุ เราไม่คิดว่าจริงเพราะไม่มีจัดงานอะไรในมหาวิทยาลัย นศ. เอารูปให้ดู เป็นหมาท้อง1 ตัว และตัวผู้แฟนมันอีกตัวอยู่ข้างกัน และอีกภาพเป็นลูกหมาที่น่าจะเพิ่งคลอดไม่นานจากหมาที่เด็กช่วยไว้ น่าจะมากกว่า 6 ตัว กัน........มีทั้งขุดหลุมฝังหมาทั้งหมด แบบยังไม่ตายก็ฝังก็มี (ไม่รู้จำนวน แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยคงถูกใจคนสั่งที่ไม่มีหมามาเดินร่วมทาง..บาปจริงๆทั้งคนสั่งและคนทำ..ถ้าเรารู้ก่อนเราคงจะหาทางช่วยพวกหมาทั้งหมดได้ (เศร้าอีกเรื่อง) จิตตก.......

นศ. เขาเอาไปลงไว้ที่นี่ http://pantip.com/topic/31695830

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

23 Feb: เห็นผิด



ว้นนี้เตรียมสอนทั้งวัน สลับกับดูรายการช่องต่างๆ และ bluesky บ้าง รู้ข่าวคนตายและบาดเจ็บอีก คราวนี้เป็นเด็กเล็ก ไม่รู้จะบันทึกว่าอย่างไร ดูเหมือนไม่ไช่เมืองพุทธ ไม่ไช่คนกินข้าวที่ปลูกบนแผ่นดินเดียวกัน เสียแล้ว ทำไมถึงมีจิตใจที่ไร้สำนึก ไร้ความเป็นคน เห็นผิดเป็นชอบ ทำร้ายขนาดคิดฆ่าหมู่ไม่สนใจว่าเป็นใคร ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวกันมาก่อน ทำไมไม่คิดสักนิดว่าอาจมีสักครั้งที่น้ำท่วมใหญ่พวกคุณ ญาติคุณ อาจเคยได้รับการช่วยเหลือ อาหาร น้ำ ของต่างๆที่ช่วยกันส่งไป อาจมาจากกลุ่มคนที่คุณทำร้ายก็ได้  น้ำใจที่เคยมีต่อกันหายไปไหน สมองที่สามารถแยกดีชั่วไม่มีหรืออย่างไร น่าเศร้าใจจริงๆ

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

21-22 Feb: โง่ หรือ งก


 
เมื่อวานไม่ได้เขียนบันทึก เพราะออกข้อสอบจนมึน 4 บท กับอีก 1 เรื่องทดสอบภาคสนามอันนี้ไว้ค่อยเอามาเขียน หากมีเวลาเหลือและไม่มึน เพราะความไม่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของสถาบันการศึกษาแห่งนี้มีมากจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถบอกว่าตัวเองเป็นมหาวิทยาลัยของท้องถิ่นได้เลย ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาสะสมมานับสิบปีและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเพราะจำนวนนักศึกษาจากหลักพันสู่หลักหมื่น ไม่ไช่เพราะยอดนิยม แต่มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพการศึกษา ต่างจากมหาวิทยาลัยคุณภาพสูงที่แย่งกันเข้า

วันนี้เขียนเรื่องการสาปแช่ง http://meecorner2.blogspot.com/2014/02/blog-post.html

เช้านี้ตื่นสายหน่อย วันนี้วันพระ ให้คนมาตัดหญ้า......การเมืองไทยช่วงนี้ถ้าเราเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมศาสตร์ คงสนุกมาก มีตัวอย่างหลายเรื่องราวให้วิเคราะห์  หลายเรื่องเราก็แปลกใจเมื่อเห็นรูป ข่าวที่ยังมีการสนับสนุนพวกโกง คอรับชั่นเหมือนเป็นสาวกแวมไพร์ที่เป็นครึ่งผีแล้วก็กลับตัวกลับใจมาเป็นคนไม่ได้อีกแบบนั้นเลย เพราะยังเห็นพวกที่ชอบทำตนเป็นไฮโซ  ที่ออกมาสนับสนุนพวกที่โกงชาวนา และออกมาสู้กับพวกกปปส. มวลประชาชน ก็เลยมองว่าพวกเขา โง่ หรือ  งก กันแน่ จนบัดนี้เห็นชัดเจนเรื่องกระบวนการโกงกิน ในขั้นตอนทุกขั้นตอน โกหกจนตอนนี้อินโดนีเซียฟ้องไปถึง WHO แล้วก็ไม่เข้าใจพวกหลงผิดจริงๆว่าเมื่อใดใจเขาถึงยอมเปิดรับความจริง ความถูกต้อง..นี่แหละมิจฉาทิฐิ!!

 พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่หก
 
ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง ห่อนแก้ ฤาไหว
 
 
แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า..
 
Born men are we all and one
Brown black by the sun culture
Knowledge can be done alike
Only the heart differs from man to man

 

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

20 Feb: พวกมิจฉาทิฐิ


เช้าไปตักบาตรอุทิศบุญให้ผู้เสียสละที่ถูกตำรวจที่ตัวเป็นไทย ทำร้ายเมื่อวานนี้ บ่ายวันนี้ัพลขับพาไปวัดไปช่วยถ่ายรูป เพราะมีการยกช่อฟ้าที่ติดซุ้มประตูเข้าวัด เอารถเครนใหญ่สุดมายก คุณหมอสุนทรผู้บริจาคซุ้มประตูมานั่งชื่นใจ อิ่มบุญดูการยก อันนี้ยังไม่ได้มีพิธีอะไร ต้องให้เสร็จทั้งหมดก็จัดพิธีถวายกัน

ท่านกอบให้เราแวะไปดูของมากมายที่มีผู้ซื้อแล้วไม่รับผิดชอบ เห็นแล้วกลุ้มใจ เหนื่อยใจแทน สรุปกันว่าสงสัยคงมีปัญหาทางจิตแน่เลย ไม่น่าเลยจริงๆ

วันนี้อ่าน line ที่ส่งมามากจนตาลาย แต่ที่เห็นชัดคือกรรมกำลังตอบสนองทุกคน โรงละครชีวิตที่เห็นดูให้ดีๆ จะรู้ว่ากรรมที่แต่ละคนแต่ละฝ่ายกำลังรับ และจะได้รับในไม่ช้ามาจากการกระทำของตนทั้งสิ้น โกงเงินแผ่นดิน หรือร่วมโกงเดือดร้อนไม่สิ้นสุด และมีเรื่องการสาปแช่งด้วย เรื่องนี้น่าสนใจและน่ากลัวมากสำหรับผู้ทำ (ผู้ก่อกรรม) ไว้พรุ่งนี้จะเอาเรื่องสาปแช่งมาบันทึก เอาว่าเรารู้ก็แล้วกัน.....พวกมิจฉาทิฐิ

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

19 Feb: ความสูญเสียที่ไม่สูญเปล่า



เมื่อวานเป็นอีกวันที่ได้ตอกย้ำความรู้สึกรังเกียจหลายสิ่งหลายอย่างของพวกที่ไม่สามารถมีสำนึกของการแยกแยะผิด-ชอบ ชั่ว-ดี ความโลภ-หลง พวกที่มีสมองแต่ไม่สามารถมีความคิดอิสระของตัวเองได้ ไม่มีใครสั่งให้ใครทำชั่วได้ ถ้าคนนั้นมีจุดยืนแห่งความดีที่มั่นคง ไม่มีข้ออ้างใดมาลบล้าง เราเชื่อเสมอมาว่าไม่มีใครผลักเราให้เอียงหรือล้มได้หากเรามีจุดยืนและหลักการที่มั่นคง เชื่อมั่นในความดี ความถูกต้อง ไม่หวั่นไหว...

เมื่อวานเป็นวันที่เราไม่มีสมาธิ เป็นห่วงทุกเวที เห็นความกระด้างในจิตของคนที่ทำปฎิบัติการต่อเพื่อนร่วมชาติที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เขาแค่รักชาติ รักความถูกต้อง รักษาแผ่นดินที่อิสระงดงามให้ลูกหลานของพวกคุณด้วยในอนาคต (ใครเป็นคนยิง สั่งยิง ไม่ควรยืนบนแผ่นดินไทยแล้ว หากยืนอยู่ชีวิตที่เหลือของผู้นั้นก็จะเป็นชีวิตที่ตายทั้งเป็นแน่แท้ นรกจะอยู่ในใจจนวันตาย)  มวลมหาประชาชนที่เสียชีวิต 4 คนเป็นความสูญเสียที่ไม่มีวันสูญเปล่า เพราะชื่อและสกุลของพวกเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อแผ่นดิน คุ้มค่าของการเกิดเป็นคน เป็นความภูมิใจของครอบครัว ของสังคมคนดีของแผ่นดิน ที่สำคัญการตายของเขามีคนที่ไม่ได้รู้จักเขาเลยโศกเศร้า สรรเสริญ ภาวนาให้พวกเขาได้สู่สุคติมากมาย ต่างจากคนหลายคนที่แม้มีลมหายใจแต่เหมือนตายทั้งเป็น เพราะมีชีวิตท่ามกลางเสียงก่นด่า สาปแช่ง ขับไล่ ฯ จากคนดีทั้งแผ่นดิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวันตายของพวกคนชั่ว เกิดมาหนักแผ่นดิน จะมีเสียงสาธุการดังเพียงใด ยินดีแค่ไหนที่แผ่นดินจะได้สะอาดเสียที

วันนี้เช้าไปตักบาตรอุทิศให้ทุกคนที่เสียชีวิต ค่ำนี้สวดมนต์ให้ และเมื่อเวทีปทุมวันยืนไว้อาลัยเราก็ยืนร่วมอาลัยด้วย ได้แต่ภาวนาให้พวกคนชั่วมีสำนึกที่ดีถูกต้อง ไม่ไช่เพื่อใคร ทำสิ่งดี คิดดี เมื่อใด พวกเขาก็จะหลุดพ้นจากบ่วงกรรม ลูกหลานจะได้รอดจากกรรมนั้นด้วย

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

18 Feb: ช่วยกัน สู้ สู้

 
เมื่อคืนสวดมนต์อุทิศบุญที่ทำตั้งแต่เช้าให้....(มากมาย หุหุ) และขอให้บารมีบูรพกษัตริย์นักรบไทย พระเจ้าตากสินมหาราช พระนเรศวรมหาราช ช่วยคุ้มครองให้มวลมหาประชาชน ชาวนา ที่กำลังต่อสู้กับระบบโกงกิน กัดกร่อนชาติ ให้สำเร็จชนะ ปลอดภัยๆๆๆๆๆ 

เช้านี้รีบตื่นมาดูข่าว ภาวนาในใจตลอดขอให้พวกเขาปลอดภัย พระสยามเทวาธิราชปกป้อง คุ้มครอง และขอให้คนคิดชั่ว คิดผิด มิจฉาทิฐิ กลับตัว กลับใจ ลดกรรมที่ทำผิดมานาน รับใช้เงินที่เอาติดตัวไปนรกก็ไม่ได้ หุหุ

เห็นหุ่นยนต์ในร่างคน (พาล) ตั้งขบวนเตรียมลุยมวลชน น่าสงสารพวกไม่มีสำนึกดีส่วนบุคคล ใครไขลานยังไงต้องทำ อ้างระเบียบวินัย สำนึกดีส่วนตัวต้องมาจากพื้นฐานครอบครัวและสภาพที่โตมาจริงๆ.....หวังว่าวาระสุดท้ายของชีวิตคงมีโอกาสได้สำนึกผิดเนอะ

มวลชน สู้ สู้
 
 

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

17 Feb: ช่วยชาวนา

เช้าไปวัด  ไปสนามบิน ไปมหาวิทยาลัย ..วันนี้เพื่อนสนิทไปถอนเงินที่ธนาคารออมสิน กลับมาเล่าให้ฟังว่าเธอถอนเงินก้อนโต ผจก.เลยต้องมากล่อมเธอ แต่ไม่สำเร็จ แต่มีบางคนกล่อมสำเร็จก็จะกลับไป แต่เธอตั้งใจแน่วแน่ก่อนไปแล้วเลยกล่อมไม่สำเร็จ ในที่สุดได้แคชเชียร์เช็คมาแทน ด้วยความวุ่นวายพอควรเพราะมีอีกหลายคนที่ถอนแต่ยังไม่ได้เงิน นักศึกษาคนหนึ่งถอน20,000 บาทไม่ได้ นั่งรอแม่มา  และอีกหลายคนมากๆๆๆ..เขาบอกว่าเงินเป็นเรื่องเล็กแต่การแสดงออกให้เห็นว่าไม่พอใจการให้เงินกู้แบบหลอกลวงคนเช่นนี้......ดี!!

วันนี้เราได้รับข่าวแจ้งจากเพื่อนว่าเห็นชาวนากินข้าวกับกุนเชียงชิ้นเดียวสงสารมาก เลยชักชวนกลุ่มเพื่อนให้ช่วยค่าอาหารให้ชาวนา กลับบ้าน link เล่าอีกเลยโอนเงินไปให้เพื่อนทันที x,xxx บาท ให้ไปจัดการอาหารให้ชาวนามีกินมากกว่ากุนเชียง เรากินข้าวจากหลาดเหงื่อพวกเขามาค่อนชีวิตแล้วช่วยแค่นี้ยังไม่พอ แต่เมื่อมีโอกาสต้องช่วยเท่าที่ทำได้ ทดแทนบุญคุณที่ปลูกข้าว เก็บเกี่ยวด้วยหยาดเหงื่อที่อดทน หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เพื่อนส่งข่าวว่าจากรวบรวมเงินทำให้ได้ข้าวกล่อง 640 กล่อง สาธุ เขาเอาไปแจกแล้วส่งรูปมาให้ดูด้วย อนุโมทนาร่วมกันนะคะ :) ขอให้สุขภาพแข็งแรงทุกท่านและเจริญในธรรม

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

16 Feb: ความทรงจำ


วันนี้เพื่อนร่วมรุ่นสมัยโบราณ ตอนวัยรุ่นติดต่อมาหลายคนเพราะเขาจัดเลี้ยงรุ่นกัน เนื่องจากศกไปกทม. หลายคนไม่ได้ไปแต่ก็โทร และ line คุยกันทั้งวัน สบายดี ทุกคนหน้าตาเปลี่ยนไปบ้างตามวัย แต่รู้สึกว่าความรู้สึกไม่เปลี่ยน ยังจำวันเก่าๆได้ดี อาจเป็นเพราะสมัยก่อนแต่ละรุ่นมีน้อย รุ่นเราทั้งคณะมี 60 คน ทุกสาขาเลยรู้จักกันหมดทุกคน เพราะอยู่หอของมหาวิทยาลัย ไปไหนไปกัน .....

อากาศค่อนข้างร้อนแล้ว วันนี้ลูกเพื่อนเก่าแก่แต่งงาน ไม่ได้ไปแต่ให้ซองของขวัญไปล่วงหน้าแล้ว x,xxx บาท ลูกรักลูกเห่อของเขาเลยให้มากหน่อย คุยกันล่วงหน้าแล้ว เราไม่ชอบไปงานแต่งงาน งานปาร์ตี้ใดๆตั้งแต่ไหนๆแล้ว เพราะวุ่นวาย จะไปงานศพ ได้ฟังสวด ฟังธรรม อุทิศบุญให้ผู้วายชนม์ และเป็นกำลังใจให้คนมีชีวิต อันนี้เป็นประโยชน์ และสงบกว่า..งานที่มีความสุขยังไงๆ เจ้าภาพก็สุขใจแล้ว ดีแล้ว แต่งานที่ทุกข์ ต้องให้กำลังใจกัน

หาข้อมูลที่สนใจทั้งวัน หาไฟล์ขยะที่เก็บไว้ไม่เจอ เฮ้อ!!


วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

15 Feb: คนมีคุณภาพต่ำ


เมื่อเช้าได้ฟังเทปที่คุณสมเกียรติ อ่อนวิมล ได้ประกาศรายชื่อส่วนหนึ่งของ "คนมีคุณภาพต่ำ แต่ตำแหน่งสูง" ซึ่งท่านบอกว่าอาจเป็นเพราะท่านใช้มาตรฐานสูงเกินไปตามมาตรฐานสากลวัด จึงเห็นว่ารัฐบาลนี้มีมาตรฐานต่ำมากในการคัดเลือกคน อาจเพราะตัวคนคัดมีคุณภาพมาตรฐานต่ำ.......ท้ังหมดทั้งสิ้นนี้ส่งผลให้ไม่ว่าจะประเมินอะไรในระดับอาเชี่ยน เราจะไดัอันดับรั้งท้ายเสมอ อาจชนะแค่พม่าหรือเขมรบางรายการเท่านั้น กระทั่งการศึกษาตอนนี้เราแพ้เวียตนามไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ (เราชนะประเทศอื่นก็เรื่องอันดับของประเทศคอรัปชั่น และนายกที่แย่ที่สุด อันนี้เรากินขาด กระทั้งตำรวจของเราก็ยอดแย่ในอาเชี่ยนเช่นกัน อันนี้ไม่แปลกใจเลย) เราฟังแล้วย้อนกลับคิดถึงหลายๆหน่วยงานในประเทศไทยที่ตอนนี้คุณภาพลดลง จริยธรรมบุคคลน้อยลง วงการศึกษาน่าจะแย่มากแล้ว เพราะระดับมัธยมแทบทุกแห่งเป็นการศึกษานอกโรงเรียนที้งสิ้น ต้องเรียนพิเศษเสียเงินพ่อแม่เพิ่มเสียเวลาที่ควรจะทำกิจกรรมกับครอบครัว หรือกิจกรรมเสริม EQ อื่นๆ โรงเรียนมีไว้เพื่อเอาใบประกาศ เอาไว้รับรองให้จบตามหลักสูตรเท่านั้น ......ครูเป็นคนอ่านหนังสือให้เด็กฟัง ยุคนี้ครูเป็นแค่สัญญลักษณ์ที่มีในโรงเรียน ครูเป็นนักธุรกิจ นักเรียนเป็นลูกค้า ไม่ไช่ลูกศิษย์ เหมือนที่อดีตอธิการบดีที่นี่เคยพูดว่า นักศึกษาคือลูกค้า จ่ายครบ จบแน่ คุณภาพมันเลยต่ำลง สำนึกครูลดลงบางคนเหลือแค่เป็นพวกขายวิชา (แถมไม่แม่นเสียอีก) สอนตะบันไม่มีวันหยุด ขอให้จ่ายครบ สอนจบ สอบผ่านแน่ เหมือนกัน...so poor!!

ก็หวังว่า การปฎิรูปประเทศไทยจะมีคนสนใจที่จะเอาจริงเอาจังปฎิรูปการศึกษา พัฒนาคุณธรรมจริยธรรมครูด้วยเช่นกัน รากฐานของประเทศก็คือการศึกษา ปลูกฝังคุณธรรมในตัวเด็กให้มาก จะได้โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีต้นทุนของความพอเพียง ไม่โลภมาก ไม่รู้สึกขาดแคลนที่จะต้องไปเบียดเบียน กลั่นแกล้ง โกงเอาเปรียบใคร ไม่ต้องสร้างกรรมโกงกินไม่เลือก ไม่ละอาย เหมือนที่เป็นๆกันอยู่ในตอนนี้ โดยเฉพาะพวกปลิงในเครื่องแบบ น่าสงสารเป็นที่สุด และที่เคยพบเห็นเราเชื่อว่าคนที่มีคุณธรรมน้อยหรือไม่มี เป็นคนมีคุณภาพต่ำจริงๆ เขาจึงพูดสอนว่า "ความรู้ คู่คุณธรรม"

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

14 Feb: มาฆบูชา


วันนี้เป็นวันมาฆบูชา ตื่นมาสบายๆ อากาศร้อน เพื่อนส่ง line มาเยอะมาก ทั้งอ่านและตอบ เพื่อนจากตปท.ก็ happy valentine  แต่เราคนไทยและเป็นพุทธศาสนิกชน เน้นวันมาฆะบูชา ทำบุญ สวดมนต์ ฟังธรรม เวียนเทียน เพื่อเป็นพุทธบูชา....
เย็นไปรับดร.ติ่งและพี่น้อยไปวัด วันนี้ท่านกอบแสดงธรรม พระอาจารย์ติดกิจนิมนต์และกิจของพระอาจารย์ของท่าน คืนนี้คนมาเวียนเทียนมาก สวดธรรมจักกัปวัตนสูตร ..แผ่เมตตา อุทิศบุญ ให้บุพการี ฯและคนที่เสียชีวิตเพื่อชาติ..ใครมาอ่านอนุโมทนาบุญด้วยกัน


เสร็จไปส่งพี่ๆกลับบ้าน รีบกลับมาดู bluesky ต่อ

 
 
บันทึก 23.45 น (เขียนส่วนหนึ่งตอนบ่าย รอมาลงรูปเวลาที่แสดงจึงเป็นเวลาที่ save ร่าง)
 

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

13 Feb: ศีลไม่เสมอ


เช้านี้ตื่นสายเมื่อคืนดู bluesky เที่ยงคืน ไปวัด วันนี้ไม่มีอะไร คิดถึงํ yiching  พยายามทำใจ หมาทุกตัวของพระอาจารย์ ยกเว้นวาวา ซึม เจ้าโมจิซึมมากหน่อยไม่มีเพื่อนสนิทให้ตามกวน เห็นแล้วสงสาร และเห็นจริงว่าพวกเขามีความผูกพันต่อกัน ดีกว่าคนหลายๆคนจำนวนมาก ที่อยู่ร่วมกัน รู้จักกัน แต่ไม่อาจเป็นกัลยาณมิตรต้อกันได้ เพราะพื้นฐานทางศีลธรรมต่างกัน เหมือนที่็เห็น คนดีกับคนดีอยู่กันก็สุขร่วมกันสร้างกุศลผลบุญ คนชั่วกับคนชั่ว ศีลบกพร่องอยู่กันก็ร่วมก่อกรรมให้เพิ่มพูนทวี ไม่รู้จบ คนดีกับชั่ว ศีลไม่เสมอกันอยู่ไปมักจะทุกข์มากกว่าสุข ยกเว้นว่าฝ่ายคนดีจะเข้าใจทุกข์ เห็นธรรม ชีวิตก็จะปกติสุข

ตอนนี้หวังพึ่งพระสยามเทวาธิราชที่จะช่วยดลบันดาลให้พวกที่คิดชั่ว ทำแต่เรื่องชั่ว ๆ ต่อเนื่องไม่รู้จบ ให้มีสำนึกดี กลีบตัว กลับใจ เพราะอุตส่าห์ได้มีโอกาสเกิดเป็นคน แยกแยะดีชั่วไม่ได้ น่าสงสารที่เสียชาติเกิด สงสารพ่อแม่ที่มีกรรมเกิดอวชาติบุตรออกมา ทำเรื่องชั่วๆ ยังไงพ่อแม่ก็ได้ผลกรรมที่ลูกตัวเองทำด้วย ชีวิตไม่ "สุขเกษม" สืบต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน ตราบชั่วชีวิตจริงๆ

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

12 Feb: ขัดเกลา


เช้าไปตักบาตร  ไปวัด แวะไปคุยกับท่านกอบหลายเรื่องเพราะไม่ได้สนทนากันมานาน วันนี้ที่มหาวิทยาลัยเตรียมจัดงานเกษตรปีแรก มีต้นไม้มาขาย ไม่รู้งานนี้จะเป็นยังไงบ้าง..โทรคุยกับดร.ติ่ง จึงรู้ว่าหกล้ม แขนเจ็บห้อยแขนแขวน..

ค่ำนี้ไปร่วมเป็นเจ้าภาพกับพระอาจารย์และท่านกอบในการบำเพ็ญกุศลศพคุณขาว ภัทรวดี สิริเวชภัณท์ ในวับ 60 ปี คืนนี้เป็นคืนสุดท้าย ขอให้พี่ไปสู่สุคติภพ..วันนี้พระท่านแสดงธรรมที่กล่าวตอนหนึ่งว่า ความตายไม่ไช่จุดสิ้นสุดของชีวิต แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่..เห็นรูปถ่ายพี่เขาแล้วนึกถึงความสดใสในอดีต แต่พี่เขาเหนื่อยมามากแล้ว หน้าที่บนโลกใบนี้จบลงแล้ว ทิ้งลูกชาย 1 คนที่เรียนจบแล้วไว้กับญาติ ชีวิตเขาก็ต้องแกร่งที่จะเริ่มเดินทางต่อไป เราไม่เคยรู้จักลูกมาก่อน คืนนี้เห็นก็บวชเป็นพระให้แม่ จำคล้ายๆว่าครั้งล่าสุดที่คุยกัน คุณขาวคุยถึงลูกชายให้เราฟังหลายเรื่อง แต่เราไม่ได้จดจำ นอกจากเรื่องงานที่จะให้เขาสืบทอด และคล้ายว่าน่าจะพูดเรื่องการบวชของลูกด้วย แต่ตอนนี้แม้ว่าจะไม่ได้อนุโมทนาบุญเห็นลูกบวชตอนมีชีวิต แต่พี่คงรับรู้ได้และได้รับผลบุญที่ลูกได้บำเพ็ญให้แม่ด้วยการบวช..นี่แหละจึงว่าไม่ควรประมาทในชีวิต ลูกชายก็ควรจะรีบบวชให้พ่อแม่ทันทีที่เรียนจบ แต่คนไทยเรานิยมให้ลูกหางานก่อน จริงๆหากได้บวชเรียนบ่มเพาะนิสัยก่อนทำงาน ขัดเกลาจิตใจ ก็น่าจะดีกว่ามากเลย พ่อแม่ปิติ ลูกเห็นก็เป็นสุขใจ แต่คนไทยไม่ได้ปลูกฝังข้อนี้.....

วันนี้เอาเจ้าแม่มดไว้ในบ้านกับศรีวันทดลองดู ว่าจะหนวกหูอีกไหม มันช่างเป็นตัวที่หวาดระแวงจริงๆ

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

11 Feb: หยิน-หยาง


วันนี้ไปตักบาตรอุทิศให้คุณขาว ผู้ไปสบายแล้ว เพื่อนของดร.ติ่ง  เช้ามากอยู่แต่ก็ไปมหาวิทยาลัยต่อ พร้อมกล้องถ่ายรูป ไปถ่ายป่าที่เคยชอบ แมงมุมยามเช้า ไลเคนส์ เห็นความเปลี่ยนไปของป่าต้นไม้หลายต้นหายไป แมงมุมลดลง มีหลุมยักษ์โผล่มาอีกเป็นหลุมขุดสี่เหลี่ยมลึกประมาณ 3 เมตรเหมาะสำหรับเป็นที่แอบทิ้งขยะในป่าสวยอีกแห่ง เฮ้อ!! poor univ.

สายเข้าประชุมสุเชฐแจ้งการขอลาออกจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ขาดอาจารย์ที่ดีไปอีกคน เสร็จทั้งโปรแกรมไปเลี้ยงรับบุ๋มจนท.ห้อง lab เข้ามานานพอควรแต่เพิ่งมีเวลาว่างตรงกัน
เย็นไปรับ link กลับจากกทม. แวะซื้อขนมของตัวเอง และไว้ตักบาตร

ค่ำนี้ดีใจที่มีคนบริจากสมทบช่วยชาวนา ได้เงิน 25 ล้าน มีคนบริจาคหลักล้าน หลักแสน ฟังแล้วอนุโมทนาบุญด้วยจริงๆ คนที่มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์อย่างประเสริฐเช่นนี้ยังมีอยู่มากในประเทศไทย ถ้าเมืองไทยมีคนที่จิตใจโอบอ้อมอารีเช่นนี้ทุกคนแผ่นดินนี้ก็เป็นสวรรค์บนดินจริงๆ......แต่โลกนี้มีสิ่งที่เป็นตรงข้ามแบบหยิน-หยางเสมอ มีคนเสียสละเมตตา ก็มีคนโลภ ละโมภอยากได้ของคนอื่นจนตัวสั่น ทำชั่วได้ทุกวิถีทาง น่าสงสารจริงๆที่ชีวิตมีแต่จะเสื่อมลงในที่สุด อีกไม่นาน.......หุหุ

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

10 Feb: ปฎิรูป..ไทย


วันนี้สอนมลพิษสวล. แต่ก็คุยเล่าเรื่องสารพัดให้นักศึกษาฟัง สอนคุณธรรมจริยธรรม จิตสาธารณะ สำนึกดี ชั่ว การโกงกินในระบบราชการ หน่วยงานบางหน่วยงานที่รวมพวกชั่วไว้ด้วยกัน การรีดไถ ในหลายรูปแบบ

คืนนี้ดูการปราศรัยที่เวทีปทุมวัน ที่มีแทนคุณ ดำเนินรายการ และมีผู้อภิปราย 2 คน อ.อานนท์ คุยเรื่องปฎิรูปโครงสร้างตำรวจ คุยวิจารณ์การรีดไถ ปัญหาของตำรวจไทย มีตอนหนึ่ง ผู้อภิปราย พูดถึงตำรวจดีต้องเป็นอย่างไร ต้องเน้นเรื่องจริยธรรมตำรวจ ซึ่งต้องมีการอบรมบ่มอย่างดี และวิจารณ์เสนอเรื่องอำนาจของตำรวจ ฯ หลายเรื่องมาก เช่น พวกมีอำนาจเต็มขั้น คอรับชั่นเต็มที่  พูดเรื่องเงินเดือนของพวกนี้ พูดถึงการรับสินบน ฯ ฟังทุกหัวข้อไม่มีอะไรดีเลย มีไว้ทำอะไร เขาก็ท้าวความกำเนินตำรวจสมัยแรกเริ่มว่ามาจากยาม ยามเฝ้าสถานที่ต่างๆที่เรียกว่าแขกยาม แล้วค่อยพัฒนามา

...ฟังแล้วนึกถึงตำรวจคนหนึ่งที่เบียดเบียนครอบครัวเพื่อนเราและเราด้วย ที่มีอดีตเคยเป็นตำรวจเฝ้ายามหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ต่อมาก็พัฒนาตัวเองหาเงินได้ด้วยวิธีเฉพาะตัว ตั้งแต่เศษเงินจาก..ที่ขึ้นโรงแรม การเริ่มต้นชีวิตบาปก็เริ่มต้น พลิกผันตัวเองกระทั่งเข้าหาครอบครัวที่มีคนแก่ มีเงิน ใช้ความพยายามวางแผนทุกอย่างหลายปี เปลี่ยนจากการรีดไถมาเป็น คนเข้าออกในบ้านเอาภรรยามาสร้างภาพ จนคนแก่หลง แล้วก็เริ่มแผนการทุกอย่าง หลายการกระทำก็สงสัยว่าทำได้ยังไง ทำไมสร้างเรื่องเท็จได้เก่ง มีความพยายามทำชั่วสร้างเรื่องทุกทาง เราและเพื่อนหลายๆคนที่รู้เรื่องก็นั่งเฝ้ามองตาม เพราะเราเล่าเป็นแบบนิทานนิยายน้ำเน่าให้ทุกคนฟัง และบอกให้ระวังพวกตำรวจที่เข้ามาในครอบครัวแต่ทำตัวเป็นโจรมาหลอกคนแก่ให้ไว้ใจ สำหรับเราเราไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะสงสารที่พวกเขาคงขาดแคลน คงถูกเลี้ยงดูมาจากการไม่ได้สั่งสอน ไม่มีความพอเพียงจึงเกิดความโลภ ต้องหาเงินบาปเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัว ซื้อรถ คอนโด บ้านหลายหลัง ฯ ส่งลูกชายเรียนอเมริกา (หาวิธีการพิเศษ..จนได้สิทธิ) ลูกสาวคงจบธรรมศาสตร์แล้ว ค่าใช้จ่ายที่มากเกินเงินเดือนปกติ จึงต้องใช้ชีวิตเป็นปลิงในช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นก็แปลงร่างเป็นดาวไถ หลังจากไม่สำเร็จก็กลายเป็น.(. ที่เขาให้ฉายาในตอนนี้)  เพื่อนเราและเราก็คงนั่งเฝ้ามองกรรมที่พวกเขาก่อไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อน คิดแล้วบางทีก็ดี ไม่งั้นเราคงไม่ได้ฝึกตัวเองจนได้ขนาดนี้ ดังที่เขาว่าไว้ มารไม่มี บารมีไม่เกิด แต่เราก็ยังคงทำบุญ อุทิศบุญให้พวกเขาเสมอ ให้เขารู้สึกอิ่ม พอ สำนึกดี จะได้ลดกรรมที่พวกเขาเคยทำกับแม่เราให้น้อยลง นรกก็อยู่ในใจเขา เหมือนที่หลวงพ่อในป่าเคยบอกไว้ ว่าเมื่อถึงเวลานั้นสิ่งที่พวกเขาและลูกจะได้รับนั้นน่ากลัวนัก  กรรมย่อมติดตามผู้ก่ออกุศลกรรมเสมอ เพียงแต่เรารักษาจิตของเราให้ปกติสุขเป็นพอ และก็ขอให้พวกเขามีความ "สุขเกษม " จริงๆ จะได้ไม่ไปเบียดเบียนใครอื่นอีก (อาจได้เหยื่อรายใหม่แล้วตอนนี้ หุหุ)

 ถ้ามีการปฎิรูปใหม่ ตำรวจมีการถูกอบรม เปลี่ยนบทบาท หลายอย่าง ก็จะได้มีตำรวจดีๆ ไม่ต้องเป็นปลิง เป็นดาวไถ เป็น...จะได้เป็นคนกันเสียที ชีวิตพวกเขาก็จะไม่รู้สึกอดหรือขาดแคลนอีกต่อไป ไม่เป็นที่รังเกียจดังเช้นปัจจุบันนี้

วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

9 Feb: รอปาฎิหารย์

Please ! Yingluck


วันนี้ตื่นรวดเดียว พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว มองออกไปริมน้ำสงบเย็น  เพลินไปดึงจิตกลับมาสู่ปัจจุบัน ......

ช่วงนี้ฟังข่าวชาวนาจากหลายๆทาง เมื่อคืนเห็นชาวนาผู้หญิงคนหนึ่งออกมายืนบนเวทีร้องไห้ไปพูดไป ฟังแล้วเศร้านัก "บ้านฉันมีมะละกออยู่สองต้น เอามาตำกินหมดแล้ว จนไม่มีอะไรจะกินแล้ว คุณมีลูก ลูกคุณตื่นมามีกิน แต่ลูกฉันตื่นมาไม่มีอะไรจะกินแล้ว เอาเงินคืนมาให้ชาวนาเถอะ"  มีหลายเวทีพูดว่า "ไม่มีรัฐบาลประเทศไหนในโลกที่โกงชาวนา" เราเชื่อเช่นนั้นจริงๆ ดูภาพข้างต้นคงไม่ต้องอธิบายคำพูดของชาวนา

ยายเคยเล่าให้ฟังตั้งแต่เด็กว่าครอบครัวยายที่เมืองจีนทำนา ยายจะเล่านับครั้งไม่ถ้วนให้เราฟังถึงชีวิตชาวนา ที่ลำบาก ต้องอดทน เหนื่อยยาก แต่มีความสุขตอนเก็บเกี่ยวที่มาช่วยกัน และยายต้องเลี้ยงควาย นั่นเป็นที่มาที่ยายไม่กินเนื้อวัว ควาย และไม่อนุญาตให้เอาเข้ามาในบ้าน เมื่อเราโตขึ้น ยายเล่าสาเหตุที่ยายไม่กินเนื้อวัว เพราะยายสงสารควายที่มันทำงานหนัก (แต่เรากับแม่กิน เรากินเมื่อม่าม้าพาไปกินเท่านั้น) เมื่อเราเรียนจบมหาวิทยาลัย นับถือเจ้าแม่กวนอิมจึงตั้งสัจจะเลิกกินเนื้อวัวตลอดชีวิตตั้งแต่นั้นมา....

เราไม่เข้าใจคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจำนำข้าวชาวนา ครั้งนี้เราคิดว่าคนของรัฐ คนดำเนินการมีคนเกี่ยวข้องเป็นพันคนที่มีส่วนในการโกง คิดชั่ว ทำชั่ว กระทั่งพวกเพิกเฉยทั้งที่รู้ ว่าใครโกง โกงอย่างไร บาปกรรมทั้งนั้น กรรมหนักด้วยเพราะทำกับผู้ทำงานบริสุทธิ์ ยากจน และที่สำคัญเขาคือผู้มีพระคุณไม่ว่าจะคิดว่าเขาก็ทำงานเพื่อเงิน แต่เขาคือกระดูกสันหลังของชาติ ไม่มีพวกเขาเราจะเอาข้าวอร่อยๆที่ไหนกิน ต้องสั่งซื้อข้าวตปท.มากินให้เสียชาติเกษตรกรรมหรืออย่างไร

คนที่มีหน้าที่ แล้วเพิกเฉย รอเวลาสำหรับต่อรองอะไรบางอย่าง ก็ติดบาป เพราะหากมีทางใดที่รีบช่วยชาวนาได้ ต้องรีบทำ เป็นสิ่งที่ชัดเจนสำหรับการเข้าใจว่าการโกงของรํฐบาลบาลนี้เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด ชั่วชนิดไม่ต้องมีข้อสงสัย เหลือแต่ผู้มีหน้าที่ ท่านจะทำงานของท่านด้วยจิตสำนึกของเมตตา กรุณา ที่ต้องมีในผู้ที่เป็นมนุษย์ เพราะสัตว์เดรัจฉานยังรู้จักบุญคุณ รู้จักเมตตา รู้จักแบ่งปัน ที่สำคัญมันรู้จักอาย (ดูจากหมา และนกที่บ้าน ชัดเจน)

ก็หวังว่างานนี้ ทุกๆวันที่มีทั้งชาวนา และประชาชนออกมาเรียกร้องให้รัฐคืนเงินให้พวกชาวนาคนจนทั้งหลาย ที่ค้างเขามา 6 เดือนแล้ว (เขาจะเอาอะไรกิน) จะมีปาฎิหารย์ให้ดลบันดาลให้มีคนกลับใจหันมารีบทำในสิ่งถูกต้อง คืนความเป็นธรรมให้สังคมจริงๆเสียที

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

8 Feb: เมื่อเวลานั้นมาถึง..



เช้าตื่นสายเล็กน้อย (06.10 am ) วันนี้มีหลายเรื่อง พระอาจารย์ไปนครฯ เมื่อคืนได้รับข่าวคุณขาวเสียชีวิต เธอเพิ่งเข้ารพ.ได้ไม่ถึงเดือน ก็จากไปด้วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ลามเข้ากระดูก เมื่อก่อนปีใหม่ยังนั่งคุยกันที่วัด ยังจำภาพนั้นได้อยู่เลย ยังวางแผนกันว่าวันหนึ่งจะไปศรีลังกากัน ..เธอไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อตรวจ ก็เป็นระยะสุดท้ายแล้ว สำหรับเราแล้วใจหาย แต่ก็นึกว่าเป็นโชคดีที่เธอไม่ต้องอยู่นานทรมาณกับการรับคีโม เธอเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในวงการพระมาตลอด จัดทัวร์ไปอินเดีย และเมื่อวัดมีงานเมื่อเธอมีเวลาก็เคยมาช่วยงานเช่นกัน เธอเป็นคนที่ทำบุญมิได้ขาดคนหนึ่ง ที่เราจำได้ดีคือเธอมักจะเอาใบชาจีนมาถวายพระเสมอ แม้ว่าเราจะรู้จักเธอไม่นาน แต่พี่เขามีอัธยาศัยดี ทักทายจนเราจำเธอได้ และมารู้ภายหลังว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับดร.ติ่ง วันนี้เวลานั้นมาถึงพี่เขา...และวันนั้นก็จะมาถึงเราและทุกคนที่ได้เกิดมา ไม่ช้าก็เร็ว จงใชัชีวิตที่เหลือด้วยความไม่ประมาท เดินไปในเส้นทางแห่งกุศล ก็เป็นชีวิตที่สุขแท้

ขอคุณขาวสู่สุคติภพด้วยผลบุญที่ได้ทำมาด้วยเทอญ..ชีวิตคนเราก็แค่นี้....แค่นี้จริงๆ แค่ลมหายใจ

วันนี้เขียนเพื่อระลึกถึง Yiching อันเป็นที่รัก
http://meecorner2.blogspot.com/2014/02/yiching.html

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

7 Feb: สำนึกดี



วันนี้ได้ยินรายการในโทรทัศน์ช่องหนึ่งพูดว่า "คนดีถูกเนรเทศ คนเลวได้นิรโทษ"  เศร้านะ..ไม่เป็นไรยังไงยังคงเชื่อกฎแห่งกรรมที่ไม่มีใครหนีพ้น ช้าหรือเร็วเท่านั้น
 สองสามวันนี้ได้ยินคำกล่าวของคุณสาธิต เซกัล.....

นายสาธิต เซลัล ประธานหอการค้าไทย- อินเดีย ที่ถูกศรส. ผอ.ศรส. ออกคำสั่งเนรเทศ .... ได้พูดตอนหนึ่งว่า พ่อแม่สั่งสอนเราอาศัยแผ่นดินไทย อย่าเนรคุณ อย่าลืมบุญคุณที่อาศัยอยู่ ผมเริ่มคิด เราจะทำอย่างไรที่จะตอบแทนในหลวง ตั้งแต่อายุ 22 ปี ผมทำงานเทิดทูนปกป้องพระมหากษัตริย์ โดยตลอด.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1ivMhJ8   เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอ เราดูด้วยความเข้าใจความรู้สึก และเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาพูด....เพราะทันทีที่เขาพูดเรานึกถึงคำพูดของยายที่พูดสอนเราเสมอทุกครั้งที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของก๋งและยายว่าท่านลำบากอย่างไรในวัยหนุ่มสาว ยายมาจากเมืองจีน แต่ก๋งอยู่เมืองไทย (แต่เราเรียกสลับกัน) ยายจะบอกเสมอว่าคนจีนอพยพหนีคอมมิวนิสต์มาอยู่ไทยนั่งเรือหนีมา เสื่อผืนหมอนใบ มาอาศัยหางานทำที่เมืองไทย ยายจึงสอนให้เราขยัน อดทน และที่สำคัญคือคำว่า "กตัญญู" สอนให้รู้คุณแผ่นดิน ต้องทำประโยชน์ให้แผ่นดิน และก๋งยายจึงขีดเส้นทางชีวิตเราให้รับราชการเท่านั้นเพราะถือว่าได้รับใช้แผ่นดิน เป็นข้าของหลวง (นั่นเป็นความรู้สึก ความเชื่อของคนรุ่นก่อน) คนจีนถือกตัญญูเป็นใหญ่ และฝังหัวลูกหลาน เราจึงต้องรับราชการตามความต้องการของก๋งยาย ดังนั้นคนจีนที่มาจากแผ่นดินใหญ่ในอดีตจะสอนลูกหลานเสมอ....... เราก็ไม่รู้ว่าจะมีคนที่ไม่สั่งสอนลูกหลาน จนโกงบ้านกินเมือง ทำนาบนหลังคน อกตัญญูแผ่นดิน ได้ยังไง หรือสั่งสอนแต่ไม่รักดีไม่จำ หรือไม่ก็ผ่าเหล่า DNA ไม่ดี เลยทำสิ่งชั่วแล้วไม่มีสำนึก แต่ก็ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าก็คือพวกที่ตัวเป็นไทย ใจเป็นทาส น่าสงสารไม่แยกแยะดีชั่ว เอาผลประโยชน์ตัว แผ่นดิน เพื่อนร่วมชาติจะเป็นยังไงช่างหัวมัน พวกนี้เป็นคนน่าสงสาร อุตส่าห์ได้โอกาสเกิดเป็นคน แต่ไม่พัฒนาจิตใจให้เป็นมนุษย์ มีบางคนเคยกล่าวเช่นเดียวกันว่า สำนึกดีถ่ายทอดไม่ได้ทาง DNA แต่มันต้องมาจากการอบรมสั่งสอนจริงๆ หุหุ

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

6 Feb: คนโกหก

 
 
 
(อ่านแล้วเปลี่ยนวิถีชีวิตที่เดินผิดทางกันเถอะนะ หากเดินถูกทางแล้ว ให้มั่นใจเดินต่อไป)


เช้าไปตักบาตร วันนี้อุทิศให้ yiching และทุกคนที่เสียชีวิตจากการเสียสละในการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของแผ่นดิน.....
 
วันนี้ได้รับข่าวส่งมาเกี่ยวกับโรค psychopath ..pseudologia fantastica คงส่งทั่วแล้วในโลกออนไลน์ ที่มีการวิเคราะห์อาการของคนๆหนึ่งที่กำลังไม่เป็นที่ต้องการของสังคมคนดีขณะนี้.....เลยสงสัย อยากอ่านเพิ่ม อ่านแล้วจึงนึกออกถึงบางอ้อ !! ที่เคยสงสัยว่าทำไมคู่ภรรยาสามี(ในเครื่องแบบ ที่เขาเพิ่งเปลี่ยนตราให้) ที่เบียดเบียนเราอยู่ตอนนี้ด้วยวิบากกรรมที่แม่ทำไว้ ทำไมเขาถึงได้โกหก กล่าวเท็จ เขียนคำเท็จได้มากมายซ้ำซากอีกต่างหากเพราะอ่านแล้วขำทุกครั้ง บางครั้งก็สงสารพวกเขาว่าต้องใช้ความพยายามมากไหมในการสร้างเรื่องเท็จขึ้นมา เมื่ออ่านเรื่องนี้แล้วทำให้พอเข้าใจพวกเขามากขึ้น ว่าที่แท้พวกเขาเป็นโรค......(ลองอ่านดู)  เราเลยรู้สึกสงสาร เวทนาพวกเขามากขึ้นอีก แต่ไม่มีใครรักษาพวกเขาได้ นอกจากกฎแห่งกรรมจะจัดสรรให้ครอบครัวเขาเอง
 

ย่อเอามาจาก เรื่องของคนโกหก...ความจริงที่ควรรู้ โดย

นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์

 โกหก...เพราะจิตป่วยหรือจิตป่วน

พวกป่วยเป็นโรคจิตเวช ป่วยเป็นโรคจิต คนที่ป่วยแบบนี้ เวลาที่มีอาการหลงผิด ก็มักจะมีความคิด ความเข้าใจไปตามอาการหลงผิด (delusion) ของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เล่าเรื่องและคล้อยตามความคิดที่ผิดปกติไปเรื่อยๆ ในขณะนั้น ดูเหมือนเป็นการพูดโกหก  น่าจะเรียกว่า พูดเรื่องที่ไม่จริงเสียมากกว่า(ซึ่งไม่ได้เป็นการเจตนา) หากมีใครขัดใจหรือใครจะมาลบล้างคงไม่ได้ และจะรู้สึกโกรธและไม่พอใจ

คนชอบโกหกกับสิบแปดมงกุฏ

กรณีนี้คงเป็นกรณีที่พบมากที่สุดในสังคมไทย (สามีภรรยาคู่นั้นน่าเป็นกรณีนี้มากกว่า ..18 มงกุฎ :)

Pseudologia Fantastica เป็นคำที่ใช้กันวงการจิตเวชและจิตวิทยา เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของมนุษย์ในการบอกกล่าวเล่าเรื่องต่างๆตามที่ตนเองเข้าใจหรือต้องการให้เป็นอย่างนั้น การพูดเรื่องราวต่างๆที่ไม่เป็นความจริงกรอกหูตนเองอยู่ซ้ำๆบ่อยๆ บางคนใช้วิธีการแบบนี้มาตลอดทั้งชีวิต จนในที่สุดคนคนนั้นก็จะคิดว่าเรื่องที่ตนเองพูดโกหกอยู่นั้นเกิดขึ้นจริงๆและเป็นเรื่องจริง หากพูดออกสู่สาธารณะ ก็จะทำให้คนในสังคมเชื่อว่าเรื่องโกหกนั้นเป็นเรื่องจริงในที่สุด

แต่ทั้งนี้หากมีการพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมายแล้วเป็นเรื่องไม่จริงก็ต้องรับโทษในที่สุด วิธีการแบบนี้พบได้มากในกลุ่มคนที่เป็น Psychopath หรือ Sociopath เรียกง่ายๆว่า "สันดานโจร" นั่นเอง และไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ การศึกษา และฐานะทางสังคม สามารถพบได้ทั่วไป ที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่ได้เป็นความเจ็บป่วยทางจิตเวช" เพื่อใช้ในการลดหย่อนหรือเป็นข้ออ้างในการไม่ต้องรับโทษ

หากเราเชื่อว่าเวรกรรมมีจริงนั้น จะเห็นได้ว่าการโกหกต้องใช้พลังงานในการสร้างเรื่องราวต่างๆอย่างมากมายมหาศาลและต้องอาศัยความจำและสมาธิอย่างมากในการให้เรื่องราวปะติดปะต่อกันได้เหมือนในบทละครน้ำเน่าทั้งหลาย แต่ในที่สุดมักจะพลาดจนมุม เพราะการโกหกมากๆจนเรื่องราวบานปลายออกไปนั้นมักจะทำให้สิ่งที่ไม่สามารถจะเป็นจริงได้โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีคนหลายคนที่แม้ว่าพยายามจะหลอกคนอื่นแล้วไม่สำเร็จ ก็เลยใช้กลไกทางจิตชนิดที่เรียกว่า Pseudologia Fantastica ในการหลอกตัวเองก่อนและพ่วงด้วยการหลอกผู้อื่นด้วย
 
ทำแบบนี้แล้วจะ "สุขเกษม" ได้อย่างไรเนาะ หุหุ

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

5 Feb: สุขเทียม


เช้าวันนี้ขอตื่นสาย หุหุ  ไปมหาวิทยาลัย คืนหนังสือห้องสมุดจำนวนมาก ยกซะแขนเมื่อยไปหมด ยุคนี้ต้องดูแลตัวเอง ไม่ต้องหวังให้นักศึกษามาถามว่า "อจ.คะช่วยยกมั้ยคะ" การไม่คาดหวังอะไรจากใครทำให้ไม่ต้องผิดหวังและเป็นอิสระ สมัยก่อนเราเป็นแบบไทยๆ ถูกสอนให้มีน้ำใจ ช่วยคนอื่นโดยเฉพาะผู้อาวุโส ตอนอยู่กรุงเทพเลยต้องยืนรถเมล์มากกว่านั่งเพราะเจอคนแก่ เด็ก ยืนให้หมดจนไม่ได้นั่งหุหุ เจออจ.ในมหาวิทยาลัยก็ช่วยถือของเป็นเจ้าประจำ

..ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยน คนจิตกระด้างมากขึ้น ไม่ว่าด้วยพ่อแม่ไม่มีเวลาสั่งสอน หรือคุยด้วย หรือเศรษฐกิจที่บีบรัด จนต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานในเวลา นอกเวลา เพิ่มรอบพิเศษตัวเป็นเกลียว เพื่อเอามาผ่อนหนี้สารพัด ค่ารถใหม่ป้ายแดง โทรศัพท์มือถือที่ต้องเปลี่ยนตามสมัย กระเป๋า รองเท้าแฟชั่น เสื้อผ้านำสมัยต่างๆ เครื่องประดับที่ต้องห้อยแขวนตามชุด ฯ เลยต้องหาเงินให้พอกับกิเลส ได้ซื้อก็มีความสุขขณะซื้อ และก็ทำงานผ่อนความสุขนั้นต่อไป (ยังไงก็ดีกว่าพวกที่ต้องรีดไถ โกง เบียดเบียนชาวบ้าน) ..สรุปผ่อนทั้งชีวิต ทำให้นึกถึงคำพูดในภาพยนต์เรื่องหนึ่งที่พูดว่า "เราทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับอนาคต จนไม่มีความสุขในปัจจุบัน" เป็นเรื่องครอบครัวที่พ่อแม่ทำงานหนักจนไม่มีใครมีเวลาให้ใครทั้งปี พ่อเป็นนักธุรกิจ แม่เป็นหมอ ออกจากบ้านเช้าตรู่ กลับค่ำ  แล้วรอเวลาวันหยุดเทศกาลเพื่อจะไปเที่ยวพร้อมกัน ซึ่งลูกไม่ได้ต้องการเช่นนั้น เขาต้องการความรัก เข้าใจ อบอุ่น ในทุกๆวันที่สามารถมีให้แก่กันได้ ....จนเกิดปัญหามากมาย ท้ายสุดพ่อแม่เกือบเสียลูกไป ก็ปรับตัวหาเวลาอยู่กับบ้านอยู่กับลูกในบ้านในวันหยุด แทนที่จะออกไปเที่ยวต่างประเทศตามที่วางแผนไว้ เป็นความสุขแบบง่ายๆ ที่อบอุ่น..เราขยายความคิดนี้ให้เพื่อน รุ่นน้องๆหลายคนแล้ว เพราะยุคนี้วัตถุนิยมมาก จนมีแต่ความสุขเทียมๆเต็มไปหมด บางคนก็ต้องก่อบาปสร้างกรรมเบียดเบียน หาเงินโดยวิธีแปลกๆ ผิดทำนองคลองธรรม เพื่อความสุขเทียมสั้นๆเท่านั้น ไม่สามารถ"สุขเกษม" จริงๆ ได้เลย เงินบาปเลี้ยงลูกให้ดีไม่ได้ อย่าลืมกันนะจ๊ะ ..ชีวิตดีๆ ไม่ต้องมีทุกอย่าง  อย่าโลภกันนักเลย มันไม่มีสุขจริงหรอกจ๊ะ หุหุ

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

4 Feb: อย่าประมาทกับชีวิต


 
วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ เป็นวันมะเร็งโลก
 
เช้าไปตักบาตรให้ yiching อุทิศบุญให้ถึงทั้ง Yiching และ ชาบู

บ่ายช่างแอร์มาซ่อมแอร์ทั้งห้องพักอาจารย์และห้องเรียนที่เสียมาเป็นเดือน บางห้องเกือบปีแล้ว ....คุยกับดร.กรณ์ สุเชฐ และจนท.บางคน หลายเรื่องราวล้วนน่าเหนื่อยใจ สังคมคนรุ่นใหม่เป็นเช่นนี้ ก็ต้องปล่อยกันไปเพราะเราก็ไม่ไช่พ่อแม่ญาติที่จะไปตักเตือน แนะกันได้ หากพ่อแม่พวกเขาสอนก็คงไม่เป็นอย่างที่เห็น หรือที่เป็น ผลประโยชน์ตนมาก่อน ไม่ว่าทางตรงหรืออ้อมก็ไม่ปฎิเสธ คว้าไว้ก่อน ผลประโยชน์เด็กหรือการศึกษาไว้ทีหลัง เป็นแบบนี้ไปหมด เสียดายบางคนมีการศึกษาที่ดีมาก เหนือหลายๆคน แต่สุดท้ายความเห็นแก่ตัว ความเป็นผู้ยืนเท้าติดดินหนักแน่นในความถูกต้องก็สั่นคลอน ....อันนี้เราก็บอกว่าไม่นานทุกคนจะได้รับผลจากสิ่งที่เขาทำ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม รอเวลา..ระบอบทักษิณจะทำงานของมันเอง

เมื่อวันนี้เป็นวันมะเร็งโลก เราก็ไม่แน่ใจว่าจะมีคนรู้มากน้อยแค่ไหน แต่มะเร็งเป็นสถิติการตายอันดับ 1 ของไทยไปแล้ว การตายนี้มีทุกวัยไม่เลือกว่าต้องแก่ หรือไกล้แก่ เพราะตั้งแต่เด็กก็เป็นได้ ตายได้ หากมะเร็งจากพันธุกรรมก็ว่าไป แต่ส่วนใหญ่หามาใส่ตัวเอง จากความประมาทของชีวิตตั้งแต่เด็กจนโต ..ไม่อยากบันทึกเรื่องสุขภาพเพราะยาว แต่ภาพสะท้อนอันหนึ่งคือ เรามีคนที่รู้จัก คนที่สนิท และไม่สนิท เจ็บป่วย และตายไปเพราะโรคนี้มากมาย ทุกๆปี มันเป็นโรคที่หลายครั้งหลายคน ไม่รู้ล่วงหน้า มาถึงก็ระยะสุดท้ายแล้ว หากโชคดีก็ยังมีเวลาจัดการชีวิตที่เหลือได้ หากโชคร้ายรู้แล้วก็หมดแรงนอนกับที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เป็นจริงที่พระพุทธองค์เคยสอนไว้คือ "จงดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทเถิด" ดังนั้นอย่าประมาทกับชีวิต ใช้เวลาให้เหมือนกับว่าหากพรุ่งนี้จะต้องตาย วันนี้เราได้สร้างสะสมความดี คุ้มกับที่ได้เกิดมาเป็นคน สำหรับโลกนี้และภพหน้าหรือยัง

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

3 Feb: สำนึกดี สำนึกคน


ในช่วงนี้คงไม่มีข้อเตือนตนใด จะเหมาะเท่าข้อความข้างต้นนี้ สำนึกดี สำนึกคน

วันนี้เป็นวันพระราชทานเพลิงศพคุณสุทิน ธราทิน คนดีของแผ่นดิน คนที่ไม่มีวันตายไนประวัติศาสตร์ไทยอีกคนหนึ่ง ขอวิญญาณสู่สุคติ
เช้ารีบตื่น ไปตักบาตรให้ yiching พระอาจารย์เมตตาฝากให้เอาขนมมาตักบาตรให้เธอด้วย อุทิศบุญที่เราทำมาให้เธอด้วยให้ไปสบายในภพภูมิที่ดี เพราะ yiching เป็นหมาที่ดีมาก (เมื่อมีเวลาจะเขียนเรื่องของเธอ) เรายังเศร้าลึกๆอยู่

วันนี้ที่มหาวิทยาลัยไม่มีการเรียนการสอนเพราะใช้ห้องเป็นห้องสอบหมด เรานัดนศ.มาสอบและสอน เพราะห้องวิทย์ไม่ใช้สอบ

ทำปฎิบัติการมลพิษทางเสียง.....
Yiching  (ตัวใหญ่คือโปเต้ ) อันเป็นมิตรแท้ หลับให้สบาย

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

2 Feb: ไม่ไปเลือกตั้ง


เช้านี้ตื่นสาย สงสัยเมื่อวานเดินทางเหนื่อยไปหน่อย แย่จังไปตักบาตรไม่ทัน วันนี้เป็นคุณแจ๋ส จัดการทิ้งของในบ้านได้อีก 2 ถุงใหญ่ ย้ายของเพื่อหาที่วางหนังสือ ทั้งบ้านไม่มีของอะไรเหมือนบ้านอื่นๆ บ้านเรามีแต่หนังสือจนเต็มไปหมด คงต้องหาห้องเก็บหนังสือเพิ่ม..

ทำจนบ่าย เหนื่อยนั่งพัก เลยทำงานได้ไม่มากนัก วันนี้ไม่ไปเลือกตั้ง นั่งติดตามข่าวอย่างเดียว และก็ใช้เวลาที่มีค่านั่งหาเห็บให้คุณหมาๆ..

ฟังอ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ร่ายบทกวีคู่กับเสียงขลุ่ยของอ.ธนิส  แล้วชอบมาก




วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

1 Feb :ความเงียบที่วุ่นวาย



 1 เดือนของปีใหม่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปีใหม่จีน วันตรุษจีนก็ผ่านไปอีก เมื่อไหร่ที่ถึงปีใหม่ไทยก็หมายความว่าผ่านไป 1/3 ของปีอีก นี่ก็ตรงกับที่เขาว่าไว้ “time and tide wait for no man” มองตัวเองแล้วรู้สึกว่าเริ่มปีใหม่ยังไม่มีอะไรที่ทำเป็นชิ้นอันเลย วา!

หยุดไปตรุษจีน (30-31 jan)เสียเกือบสามวัน  ตอนแรกก็ตั้งใจว่าหากมีเวลาก็จะไปร่วมเดิน แต่เวลาที่มีมันหมดไปกับการเดินทาง ขนาดหลบลงเรือแล้ว เรือก็แน่นมากๆๆ  จึงใช้เวลาแต่ละท่าเรือนานในการรอขึ้นลง 

ไปครั้งนี้ใช้เวลาอยู่บน BTS นานมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของอะไรหลายๆอย่างของยุคสมัยและความทันสมัยของเทคโนโลยี เราอาจเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลากับการเดินทางสาธารณะมากนักและก็ไม่บ่อยที่จะอยู่ในกลุ่มคนหมู่มากแบบยานพาหนะสาธารณะ ดังนั้นสำหรับคนที่เดินทางบ่อยอาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัด แต่เราเหมือนบ้านนอกที่เคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆ โดยทิ้งช่วงเวลาทำให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและทำให้คิด ...ตั้งแต่ครั้งที่ไปสิงค์โปรเมื่อต้นเดือนที่แล้วต่างจากที่เคยไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่ไช่ในแง่การเจริญทางวัตถุซึ่งเป็นอะไรที่แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเปลี่ยนทั่วโลก แต่ที่เห็นครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ในกระเทศไทย นอกจากที่เราเห็นมีคนบอกไว้ว่าเด็กรุ่นนี้เป็นรุ่นก้มหน้า สำหรับเรารู้สึกว่าเป็นรุ่นแห่ง”ความเงียบที่วุ่นวาย (confused silence) “ เพราะไม่ว่าจะขึ้นรถ ลงเรือ ยืนที่ใดที่หนึ่ง ไม่มีเสียงหัวเราะกัน ไม่มีเสียงพูดคุย กระทั่งเสียงกระซิบ ไม่มีการมองหน้าสนใจกัน โลกเป็นส่วนตัวมากขึ้นจนรู้สึกได้ว่าที่เห็นเป็นร่างที่เดินได้ แต่จิตใจความรู้สึกอยู่อีกที่ .........เพราะตอนนี้เมื่อไปไหนก็เห็นเกือบทุกคนก้มหน้ากดมือถือ  ไอแพด  แทปเลต แล้วแต่จะมีกันขนาดยืนมือหนึ่งโหนรถ อีกมือยังกดได้ ใจของทุกคนหลุดออกไปอีกโลก เสียงเงียบทั้งตู้ขบวน แต่เป็นเงียบที่ง่วนวุ่นวาย จิตไม่ว่าง ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม  ปกติจำได้ว่าในรถจะมีเสียงคุยของกลุ่มคนที่ขึ้นรถ เรือ แล้วจะ มีเสียงหัวเราะ  พูดคุยเล่าเรื่องแต่ตอนนี้มีแต่ร่างที่เดินขึ้นลง ทุกคนคุยกับเครื่อง หัวเราะกับเครื่องโดยใช้สัญลักษณ์บ้าง สติกเกอร์บ้าง อิโมจิที่มีทุกอารมณ์ กระทั่ง 555 ก็รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เห็นนักเพราะรู้สึกว่าโลกกำลังก้าวไปสู่ความกระด้างมากยิ่งขึ้น อนาคตเราจะคล้ายๆหุ่นยนต์ จนกลายเป็น “มนุษย์ยนต์” ไปในที่สุด บางบ้านพ่อแม่ลูก สามี ภรรยา line คุยกันในบ้าน ปากไม่ต้องขยับ สังคมยุคใช้นิ้วคุยกัน...ค่อยบันทึกเรื่องนี้ต่อเพราะวันนี้ง่วง เพิ่งเดินทางกลับ คนค่อนข้างมาก  กลับมาก็ให้พลขับพาไปวัดก่อน ไปกราบพระอาจารย์รายงานตัว และเราตั้งใจไปทักทาย Yiching ที่หลุมของเธอ แล้วพรุ่งนี้จะบันทึก