วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

31 Dec: สิ้นปีมะเส็ง


เช้าไปสั่งปาท่องโก๋ไว้ถวายพระตอนเช้า ไปวัด วันนี้ไม่มีอะไร ถนนค่อนข้างเงียบ จะแวะไปธุระแต่หาไม่เจอเลยได้เที่ยวทางอ้อม กลับมาเห็นอากาศไม่ค่อยดี เลยซักผ้า ซักเสร็จอากาศก็ยังไม่ดีขึ้น หุหุ..เอาขนมไปให้กิ่ง สักครู่ใหญ่หยีแวะมาสวัสดีปีใหม่ สามีเธอเกษียณแล้ว

ปีนี้ผ่านไปเร็วมากไม่ได้รู้สึกว่าได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นอันมากมายนัก ปีหน้าต้องตั้งเป้าเขียนงานให้ได้เป็นชิ้นอันมากกว่านี้ ไว้กลางเดือนหน้าจะวางแผนว่าจะเขียนงานอะไรบ้าง

คืนนี้เตรียมไปสวดมนต์ข้ามปี ให้เป็นสิริมงคลแก่ประเทศ แก่ตัวเองและครอบครัว ผู้มีพระคุณ อุทิศให้ผู้สละชีวิตและทำคุณต่อประเทศทุกยุคสมัย อุทิศให้บรรพบุรุษทุกชาติ บริวารทั้งหลาย จนถึงเจ้ากรรมนายเวร ........ตลอดจน "สุขเกษม" ให้พวกเขาได้รับผลบุญเป็นสุขๆ  รู้สำนึกและละอายต่อบาปที่พวกเขาได้สร้างเรื่องก่อกรรม/ต่อกรรมแก่คนดี ๆ หลายสิบชีวิตมานาน ให้รู้ผิดชอบ-ชั่วดี เขาจะได้ไม่ต้องเป็นผู้ต่อเคราะห์กรรมให้ลูกของเขาเองต่อไป เราช่วยเขาได้แค่นี้ หวังว่าปีใหม่นี้ครอบครัวพวกเขาคงจะดีขึ้น รู้สึกอิ่มขึ้น ลดโลภะ โมหะในใจได้ และเราจะอุทิศบุญให้พวกเขาเรื่อยๆ ต่อไป

ขอให้ทุกท่าน กัลยาณมิตรที่เข้ามาอ่านได้อนุโมทนาบุญจากที่ได้ไปสวดมนต์ข้ามปีมา และขอให้ปีเก่าเป็นปีที่พาทุกข์ โศกโรคภัยทิ้งไปกับการสิ้นสุดแห่งปี และพร้อมที่จะรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่จะมาถึงในพรุ่งนี้แล้ว.......bye bye 2556





วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

30 Dec: วันว่าง


เช้าไปวัด กลับบ้านพักผ่อน โทรหาคุณลุง ปรากฎว่าไปเที่ยวพักผ่อนที่นครนายกกับคณะกัน บ่ายไปซื้อของกับกิ่งได้ของเท่าที่ต้องการมา

เมื่อวานจัดการบ้านจนได้ห้องว่างแสนสบายเพิ่มอีกห้อง ใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้เลย โล่งว่าง บรรยากาศดีมาก เหมาะเป็นห้องนั่งกรรมฐาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องพักผ่อน และ...เพราะ "ว่าง" จึงดูสงบ เย็น และเป็นสุข มองออกไปก็เป็นคลอง สบายตา..ก็ดีเวลาผู้หลักผู้ใหญ่มาจะได้พักกัน เพราะบางครั้งท่านๆมาราชการ..ก็ไม่ต้องไปพักที่อื่น ไม่มีใครรู้ จะพยายามทำห้องอื่นๆในบ้านให้ลดของลงอีก ต้องทำแบบญี่ปุ่น เอาของใช้ส่วนเกินออกจากบ้านให้หมดในปีใหม่ ไม่งั้นก็ห้ามเอาของใหม่เข้าบ้าน

วันนี้ไปซื้อช็อกโกเล็ตกระป๋องสวยๆให้ของขวัญปีใหม่ลูกเณร ซื้อหลายแบบใครชอบแบบไหนก็ไปแบ่งกันเอง

วันนี้เขียน เข็มทิศ..ทางชีวิต



วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

29 Dec : บุญมา ดอกวาสนาก็ส่ง



เช้าไปวัด เมื่อวานเย็นพระอาจารย์ประชุมฝ่ายจัดการอาหารอีกครั้ง เพื่อความเรียบร้อยลงตัว กันพลาด ก็เข้าใจกันด้วยดี ตอนนี้เราเองต้องลำดับงานให้ดีเท่านั้นเพราะต้องคอยช่วยหลายอย่าง งานอื่น ๆ ก็ทะยอยระดมเข้ามา งานบทความของนักเรียนทุนรัฐบาลที่เขาขอมาปีนี้คงต้องเว้นอีก ไม่มีเวลาเขียนจริงๆ...

วันนี้บ่ายส่งเตียงขนาด 5 ฟุตไปถวายวัดเรียบร้อย พร้อมที่นอน ปลอกหมอน ผ้าปูทั้งชุด

เย็นเพื่อนจากกทม.เอารถมาส่งให้ link สวยถูกใจ พระอาจารย์ก็ชอบ

วันนี้ต้นวาสนาออกดอกสวยมาก เห็นไม่ชัดนักเพราะอยู่สูงมาก เกือบปลายยอดและเริ่มมืดแล้วตอนเห็น พรุ่งนี้จะเอากล้องซุมถ่ายจะได้เห็นชัดขึ้น




วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

28 Dec: อาลัยแด่ ยุทธนา องอาจ



วันนี้ได้ตื่นสายเล็กน้อย พักผ่อน สายแปลงร่างเป็นแจ๋ว จัดห้องทำงานใหม่ให้ได้รับลมธรรมชาติจากคลอง (แม่น้ำ) ที่ไหลผ่าน

 วันนี้มีวีรชนคนรักชาติ ได้ถูกลอบยิงเสียชีวิตอีกคน "ยุทธนา องอาจ" ขอไว้อาลัยด้วยบทเพลงของจิตร ภูมิศักดิ์  แสงดาวแห่งศรัทธา เรายังมีคนไทยอีกมากมายที่เกิดมาไม่เสียชาติเกิด ไม่หนักแผ่นดิน เมื่อชาติต้องการกำจัดคนขายแผ่นดิน คนโกงกินประเทศ ก็จะมีคนดีๆ ออกมาปกป้อง แน่นอนว่า ชีวิตผู้เสียสละไม่สูญสิ้นเปล่า มีคนอาลัย ยกย่อง อย่างจริงใจ น้อมใจส่งให้สู่สุคติ ต่างกับอีกหลายๆชีวิตที่เกิดมาก็สว่างมา แต่สุดท้ายไปอย่างมืดมิดเสียชาติเกิด ยังไม่ตายก็มีคนช่วยกันสาปแช่ง ตายไปไม่ต้องพูดถึง ดีใจทั้งแผ่นดิน มีทุคติเป็นที่ตั้ง น่าสงสารจริงๆ พวกคนเนรคุณแผ่นดิน

แสงดาวแห่งศรัทธา
พร่างพรายแสง ดวงดาวน้อยสกาว
ส่องฟากฟ้า เด่นพราวไกลแสนไกล
ดั่งโคมทอง ส่องเรืองรุ้งในหทัย
เหมือนธงชัย ส่องนำจากห้วงทุกข์ทน
พายุฟ้า ครืนข่มคุกคาม
เดือนลับยาม แผ่นดินมืดมน
ดาวศรัทธา ยังส่องแสงเบื้องบน
ปลุกหัวใจ ปลุกคนอยู่มิวาย
 
ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คนยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้นผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน
ดาวยังพราย อยู่จนฟ้ารุ่งราง
 
หมายเหตุ
เพลงแสงดาวแห่งศรัทธา เป็นเพลงที่ประพันธ์โดยจิตร ภูมิศักดิ์ ในช่วงปี พ.ศ. 2503-2505 ขณะถูกขังอยู่ที่คุกลาดยาว โดยใช้นามปากกาว่า "สุธรรม บุญรุ่ง" ต่อมาเพลงนี้ถูกนำมาขับร้องในช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา และเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เป็นเพลงที่ใช้ปลุกพลัง ความหวัง และศรัทธา......

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

27 Dec: ด้วยความอาลัย วสุ สุฉันทบุตร


จากข่าว

ล่าสุด วันนี้ (27 ธันวาคม 2556) ที่ เฟซบุ๊ก Banchitar Hemthanon ซึ่งเป็นแฟนสาวของผู้ชุมนุมที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายวสุ สุฉันทบุตร ที่ก่อนหน้านี้ได้รับขอบริจาคเลือด มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายวสุ แฟนหนุ่ม ได้เสียชีวิตลงแล้ว

 
 
 ก่อนเสียชีวิต"วสุ" นักสู้คปท.จากชุมพร ขนน้ำเต็มคันรถมิตซูมิชิปาเจโร่สปอร์ต เพื่อไปให้ผู้ชุมนุมที่ดินแดง (จากเพจผู้ใช้นามว่า "Gumafia Noominnie")
แม้ว่าจะไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัว แต่รู้สึกเป็นเพื่อนร่วมชาติ ขอแสดงความเสียใจ อาลัย และขอบคุณสำหรับจิตสำนึกของความเสียสละเพื่อ"ไทยรุ่นต่อไป" แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จ แต่คุณเป็นความภูมิใจของทุกคน และคนดี สำนึกดี ที่รู้จักคุณ.. ความตายของคุณไม่เสียเปล่าเพราะตายเพื่อสิ่งที่ “คนเป็นไท “ ได้ทำเพื่อแผ่นดิน ตายอย่างผู้เสียสละ ใจเป็นไท ไม่ได้เป็นทาส คุ้มค่าแก่การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในภพนี้แล้ว  ดีกว่าอีกมากมายที่ได้เกิดเป็น “คน” แต่ไม่ได้ดำรงชีวิตด้วยจิตที่เป็น “คน” คอยแต่เบียดเบียน ทำแต่สิ่งชั่วทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ และไม่ต้องนำไปเปรียบเทียบกับผู้ที่มีหน้าที่รักษาความสงบ ความถูกต้องแต่กลับเป็นผู้ทำสิ่งที่น่าละอายเสียเอง ไม่ว่าด้วยเหตุผลการแก้ตัวคืออะไร แต่กฎของกรรม ก็จะติดตามพวกเขาไปจนชั่วชีวิต ไม่ว่าจะหาตัวผู้ทำได้หรือไม่ แต่กรรมได้บันทึกผลเอาไว้แล้ว ไม่มีอะไรจะน่าสงสารเท่ากับนรกในใจพวกเขา ลมหายใจสุดท้ายของผู้กระทำสิ่งชั่ว จะนำพาเขาไปในที่เหมาะสมกับผู้นั้นไม่มีวัน "สุขเกษม" ...ขอดวงวิญญาณของคุณวสุ สุฉันทบุตร วีรชนประชาธิปไตย สู่ภพภูมิที่ดี สงบ วันนี้จะอุทิศผลบุญให้คุณ
เห็นเจ้าหมาน้อยอยากจะขอมาเลี้ยงแทนจัง เหมือนลานาของเราที่ตายไป

ค่ำนี้ได้ดูภาพมวลมหาประชาชน ได้ร่วมวางดอกไม้ เทียนอันเล็กๆ ด้วยความอาลัย ประกอบเสียงขลุ่ยจากคุณธนิส เป็นภาพที่น่าตื้นตัน ทุกคนเศร้าใจ  ดวงวิญญาณของคุณก็คงเฝ้าดูอยู่ด้วยความสุข เพราะคุณเป็นคนที่มีคนอาลัย รักด้วยความจริงใจ ที่สำคัญทุกคนรวมใจกันส่งคุณสู่สุคติภพ พลังจิตของมวลชนจะเป็นแรงหนุนคุณสู่ภพภูมิที่ดี ภูมิใจแทนพ่อแม่ที่มีลูกดี เกิดมาไม่หนักแผ่นดิน ไม่โกงกินชาติ เหมือนพ่อของคุณที่ทำคุณต่อแผ่นดินเช่นกัน..

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

26 Dec : กรรมกรวิชาการ



เช้าไปวัด วันนี้มหาลัย มีแข่งกีฬาสี เราพักผ่อน เมื่อวานค่ำคุยกับดร.ยุวดี ลูกศิษย์ เธออยากย้ายมาอยู่ที่เดียวกับเรา และขอความเห็น เราบอกเพียงว่าเราอยู่ที่นี่เพื่อใช้ทุนรัฐบาล และอยู่เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิด หากคิดจะใช้ความรู้ความสามารถให้คุ้ม ก็ไม่ควรมาอยู่ที่นี่ เพราะคุณภาพทางวิชาการที่นี่ไม่คำนึงถึง เราต้องดูแลตัวเองให้ดีมาก และไม่หลงกับกิเลส ละโมภ จึงเป็นครูที่ดีได้ หาไม่แล้วก็จะเป็นเพียงคนรับจ้าง กรรมกรวิชาการ เพราะทำทุกอย่างเพื่อแลกกับรายได้ ลอกงาน เอาผลงานเด็กมา ฯ ครูดีๆ ก็ต้องทำใจเพราะชีวิตเราไม่ได้มีแค่เงิน แต่ศักดิ์ศรีความเป็นคน เป็นครู ต้องมี แต่คนรุ่นใหม่นี่แปลกดี สำนึกครูมีน้อยเหลือเกิน บางคนกินเหล้ากับนักศึกษา ฯ (ไม่อยากบันทึก) ให้จนท.ทำผลงานให้ เอาผลงานนศ.มาเขียนขอเงิน งานวิจัยไร้คุณภาพและจริยธรรม ก็ให้เขาตัดสินใจเอง อยู่ก็ต้องทำใจให้อยู่เหนือกิเลสให้ได้ ข้อดีของที่นี่อย่างหนึ่งคือใช้เป็นที่ฝึกตนได้ดีมาก ฝึกสติ ฝึกอุเบกขา

วันนี้สงสารคนรักชาติมาก บาดเจ็บไปหลายสิบ ไม่สบายใจเลย แต่ที่สุดแล้วธรรมะต้องชนะอธรรมเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

25 Dec: สังสรรค์


 
วันนี้วันพระเช้าแถวที่ผ่านจะไม่มีพระมาบิณฑบาตร ก็เข้าเมืองไปวัด วันนี้เที่ยงนัดกับน้องๆ ดร.รุ่นกลาง ไปทานข้าวติดตามข่าวข้นคนเข้ม หุหุ จนเป็นวัฒนธรรมกลุ่มแล้ว ได้ฟังหลายๆเรื่องในวงการมหาวิทยาลัยแล้วเบื่อมากกก อยากลาออกเร็วๆจัง คุณภาพการศึกษาตกต่ำไปทุกวัน ไม่มีใครสามารถจะช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ในตอนนี้เพราะผลประโยชน์ส่วนตัวมาก่อนจนความเป็นครูแทบไม่มี เอาผลงานเด็กไปลงวารสาร เพื่อเอาผลงานที่ได้ตีพิมพ์มาขอเบิกเงิน เลยทำบ่อยๆ ได้เงินทุกรอบที่ทำ ก็เห็นช่องทางหาเงิน สอนไม่ค่อยสอนกันเพราะไม่มีรายได้อะไรงอก แต่เสาร์ อาทิตย์สอนไม่อั้น ตะบันสอนได้ เพราะมีค่าชั่วโมงเป็นกอบกำ...อื่นๆอีกมากมายที่แย่กว่านี้ก็มี จนเราเองก็หมดใจที่จะช่วยทำอะไรให้ดีขึ้น น้องๆดร.กลุ่มนี้ที่ไฟแรงก็เรื่มลดเปลวลง..มองไม่เห็นทางพัฒนาคุณภาพจริงๆตราบเท่าที่ครูไม่สำนึกความเป็นครู ขาดคุณธรรม ใครแตะก็ไม่ได้ ..สงสารแต่อนาคตชาติจริงๆ

เราก็ได้แต่ทำใจเพราะผ่านเรื่องพวกนี้ เห็นมาทุกยุค ไม่มีผู้บริหารคนไหนรักเด็ก รักแผ่นดินบ้านเกิด ละเลย เอาแต่เงินเป็นตัวตั้งทุกเรื่อง

กลับบ้านเจอเรื่องประหลาดของซันวา เฝ้าดูสังเกตุ จนไม่สบายใจ พาไปหาหมอ หมอบอกเป็นโรคเครียด งงๆ บอกหมอไปว่าเครียดได้ยังไง ไม่ขัง ไม่ตีแบบเจ็บ (เวลาตีเมื่อจำเป็นจะเรียกมา เขายกมือให้เราก็เอากระดาษเบาๆตบที่มือแสดงสัญญลักษณ์ให้รู้ว่าทำผิด) พูดคุยด้วยตลอดที่อยู่บ้าน ขนมกินทุกวัน วิ่งเล่นตลอด แต่เขามีนิสัยชอบ แหง่ๆๆ กับทุกตัวขี้หงุดหงิด หมอบอกกรณี้นี้ไม่มีสาเหตุที่บอกได้ บางตัวเป็นมากกว่านี้ เลยให้ยานอนหลับและคลายเครียด เราบอกว่าสงสัยเจ้าของต้องแบ่งกินด้วยเพราะตอนนี้เครียดกว่าหมา เพราะเป็นห่วงเขา เขาพูดบอกเราไม่ได้

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

21 Dec: เตรียมบุญ



เช้าไปวัด กลับมาทำงาน บ่ายไปวัดอีกครั้งเพื่อวางแผนการจัดของที่จะถวายพระ 106 รูป +อีก 200 กว่ารูป ปีนี้ได้ร่วมทำบุญใหญ่ และมากดีจริงๆ

วันนี้เขียน งานต้อนรับสมณศักดิ์ พระธรรมวิมลโมลี

http://meecorner2.blogspot.com/2013/12/blog-post.html

อากาศเริ่มเย็นเอาเสื้อไปให้เจ้าเรโอ คงต้องเตรียมหาเสื้อให้เด็กๆอีก

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

20 Dec: โลภะ บังตา



เช้าไปวัด วันนี้ตามล่าหาหนังสือในห้องสมุด เข้าแล้วก็เดินเพลินไปเรื่อยๆ เกือบสองชั่วโมง หยิบมาได้ 1 โหลพอดี วารสารอีก  6 เล่ม จริงๆมีมากกว่านี้ที่จะอ่าน แต่ดูเวลาตัวเองแล้ว ช่วงนี้หาเวลาส่วนว่างได้น้อยเต็มที ที่มีก็เอาไว้นอน และกิจกรรมพักสมอง (fixed time) ก่อนนอน ......

วันนี้ดูกิจกรรมเดินเพื่อชาติ ค่ำเห็น ศ.ดร.พิเชษฐ วิริยะจิตรา (เดิมอจ.อยู่ มอ. เคยสอนเรา และเป็นคณบดีบัณฑิต สมัยที่เราเรียนป.โท ตอนหลังย้ายไปมช. อจ.เป็นผู้คิดค้นสารสกัดจากเปลือกมังคุด ภรรยาอาจารย์น่ารัก สอนภาษาอังกฤษเราด้วย คิดถึงอาจารย์จัง) เห็นอจ.ตอนขึ้นเวทีก็เอะใจ ว่าคุ้นหน้ามาก เพราะอจ.ไม่ใส่แว่นเลยงงๆ อจ.บริจาคเพื่อชาติ 1 ล้านบาท ขออนุโมทนาด้วย เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ....ดีใจจังที่เจออจ.อีกครั้ง อจ.เปลี่ยนไม่มากเลย..ดีใจที่มีอจ.ที่เป็นวิญญูชน มีปัญญา ไม่เหมือนอดีตอธิการบดีบางสถาบันที่ชอบออกรายการโทรทัศน์บางช่อง ที่อาวุโสจนจะสุดปลายชีวิตแล้ว ยังแยกถูกผิด ชั่วดี ออกไม่ได้ ไม่รู้อะไรบังตา แต่ที่โชคดี ที่เราไม่เคยเป็นลูกศิษย์เขา ไม่งั้นคงทำใจลำบาก

วันนี้รู้เรื่องการพยายามขออายัดบัญชี..ขำจัง น่าสงสารคนที่พยายามทำจัง ..ไม่รู้จะช่วยให้เขาพ้นบ่วงกรรมของความโลภที่บังตาได้ยังไง..ลพ.บอกว่ากรรมจะตามพวกเขาเอง ไม่ต้องลุ้น so soon หุหุ

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

19 Dec: ความโลภ



เช้าไปมหาวิทยาลัย วันนี้ทำงานหนังสือต่อ งงๆกับการจัดการของตัวเองเล็กน้อย  กว่าจะเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำไว้ หุหุ 

เมื่อวานรู้สึกเหนื่อยมาก เลยนอนตั้งแต่หัวค่ำ นี่คือการที่เอาตัวเข้าไปยุ่งกับสิ่งที่ไม่ควรยุ่ง และไม่ชอบยุ่ง แต่มันตั้งใจแล้วว่าหากไม่ยุ่งก็ไม่รู้เห็นด้วยตาตัวเอง มีแต่ได้ยินด้วยหู เราได้ยินมาจนเบื่อหลายครั้งแล้ว ก็เลยต้องเป็นแบบที่เรียกว่าเอามือไปจิ้มขี้ สักครั้งประมาณนั้น โดยการพูดสอนทางอ้อม..เช่น "ไม่เป็นไร ใครทำก็ได้รับกรรมเอง จะมาทำบุญหรือต่อกรรมก็เลือกเอง" พูดให้คนนั้นคิดบ้างว่าการขโมยยักยอกของวัด ของพระ  ของที่คนมาทำบุญ บาปนัก..อีกพวกพวกคือพวกที่ชอบพูดจาในแง่ร้าย พูดจาโดยไม่ถูกต้อง คิดร้าย เอาดีใส่ตัว เราก็บอกว่า "ของกินที่นี่มีพอทุกอย่าง  ถวายพระเต็มที่ไม่เคยไม่พอ แต่อาจไม่พอสำหรับการจะขนกลับบ้านเป็นถุงยักษ์ .." คราวนี้เก็บตก พูดให้คนทำได้ยินเผื่อเอาไปคิดละอายบ้าง จะได้ไม่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา..คราวหน้าจะเขียนคำพูดของท่านคานธี...ที่กล่าวไว้ว่า

"ทรัพยากรในโลกเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงคนทั้งโลกแต่ไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงคนที่มีความโลภเพียงคนเดียว" เป็น "อาหารที่นี่มีพอสำหรับทุกคน (กระทั่งคนขับรถ ที่ต้องพยายามกินพร้อมพระเสมอ ทั้งที่บางโอกาสไม่จำเป็น ??) แต่ไม่มีพอสำหรับคนโลภมากแม้เพียงคนเดียว"  เลยทำให้เราเหนื่อยใจ และเสียพลังงานกับการไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำบ้างกิ่งคงแย่แน่ เลยต้องช่วย เราเลยหมดแรง ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นได้สักแค่ไหน

ให้กำลังใจคนที่เดินเพื่อชาติไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์

วันนี้ดูเทปการ debate ระหว่างอดีตอธิการบดี 2 สถาบันแสดงความเห็นโต้ตอบกันในรายการที่พิธีกรไม่ค่อยมีมรรยาทนัก เห็นความแตกต่างทางความคิด เราเคยสงสัยว่าคนที่มีการศึกษาในระดับสูง มีหน้าที่การงานดี และโดยเฉพาะเป็นครู อาจารย์ จะเป็นผู้มีปัญญา แยกแยะชั่ว-ดี ถูก-ผิด ออกจากกันได้อย่างเป็นธรรม วันนี้เพิ่งรู้ว่าบางครั้งการศึกษา และ...ที่กล่าวไม่ได้ทำให้เขาเป็นวิญญูชนได้เลย ฟังแล้วเสร้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าเขาคนนั้นที่แก่กว่าน่าจะรู้ตัวว่าตัวเองอาจพลาดไป แต่ยังดันทุรัง เราก็นั่งคิดตามไป ดูเขาดันทุรังไป แล้วน่าสงสารมิจฉาทิฐิในใจเขา  แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นไม่ว่าเจตนาหรือไม่ก็ตามนั่นคือการอกตัญญูต่อชาติแผ่นดินเกิด และตราบาปที่บันทึกติดตามนามสกุลเขาสู่รุ่นลูกหลาน ....ไม่น่าเชื่อเลย

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

18 Dec: พยาธิ


เมื่อวานเตรียมตักบาตร แต่พระไม่ออกมาบิณฑบาต ไปวัด พระจากกทม.มาเตรียมตรวจข้อสอบ (ของพระ) กันตั้งแต่วันอาทิตย์ มาเตรียมโปรแกรม ฯ อะไรๆ ก่อน เวลาเห็นพระกลุ่มที่ทำงานนี้แล้วก็ปลื้มใจแทน ท่านมีความรับผิดชอบ ขยัน และถือว่าใส่ใจต่อการทะนุบำรุงพระศาสนา เราฆร าวาสก็มีหน้าที่สนับสนุนให้ท่านได้ทำงานได้สะดวกสบาย ก็มีโยมๆมาช่วยกันด้านอาหาร ปานะ ตามกำลัง พระอาจารย์ก็ตั้งใจทำดีที่สุดเท่าที่ท่านทำด้วยความใส่ใจเสมอมา แต่ไม่มีงานใดๆ ที่ไม่มีมาร...เมื่อวานคุยกับบางท่าน /คน ทำให้ต้องไปรับรู้เรื่องแย่ๆของผู้ที่เบียดบังศาสนา บางผู้เป็นเหมือนเห็บ บางผู้เป็นเปรตวัด (เคยอธิบายคำนี้แล้ว และจะนำมาเขียนอีก) รู้แล้วจิตตก เศร้าใจ ก็คงต้องเลิกนับถือกันอีกราย และ link คงมีความรู้สึกมากว่าเราเพราะรายนี้เขา sensitive  กับเรื่องความถูก ผิด  มากกกก อาจแสดงอาการอารยขัดขืน เพิกเฉยไปไม่เห็นตัวตนของผู้นั้นเลย วันนี้รู้ เราจะสังเกตุ ส่วนเรายังไม่รู้ ต้องเจอก่อน แต่คิดว่าสำหรับรายนี้คงไม่ต่างกันพราะผู้นี้ทำมาหลายครั้งแล้ว เรารู้ก็อภัย แต่ครั้งนี้ถูกอัดข้อมูลมามากจนฟังไปรู้สึกรังเกียจพฤติกรรมไป  จนสามารถสรุปสั้นๆว่า เป็นผู้อกตัญญูสมบูรณ์แบบยากแก่การแก้ไขแล้ว เพราะอายุ อยู่ในวัยที่ควรเป็นผู้สั่งสอนผู้อื่น ไม่ไช่ให้ใครไปสั่งสอนได้อีก หากไม่รู้จักมีสำนึกเองก็เป็นผู้ที่ยากแก่การพัฒนาตัวเองต่อไป  คงต้องเป็นผู้ขอ ผู้เบียดเบียน ทางโลกเราเรียกว่าปรสิต พาราไซต์ เอาชัดๆ ......พยาธิ

วันนี้มีตรวจข้อสอบมีพระระดับครูอาจารย์เป็นร้อยรูปมาช่่วยกันระดมความรู้ตรวจ

ขอแวปออกมาบันทึกการเมือง ตอนนี้เห็นพวกนักวิชาการเด็กที่อยากเด่นดังออกมาแสดงความเห็น ตระเวณออกไปทุกช่องเราเห็นเลยว่าระดับปรมาจารย์ แตกต่างจากพวกปูเสฉวนดร.รุ่นใหม่นี้อย่างไร ที่อยากเด่นดัง ทำไงก็ได้ พูดเรื่องที่ขัดต่อความถูกต้อง จริยธรรม ทำในสิ่งผิดก็ยอม ขอให้ได้...และเงินก็คงตามมา จริงไหมดร. ป..ป..so poor!! นี่เป็นพยาธิของประเทศ

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

15 Dec: ฟังๆๆ


สองวันนี้ไม่ยุ่งมากนัก แต่เหนื่อยสมอง เมื่อวานไปนครศรีธรรมราช แวะไปถ่ายรูปสถานที่ที่พระอาจารย์เขียนบันทึก กลับถึงบ้านก็ทุ่มเศษ เพลียหมดแรง เจอคนมากไป

วันนี้เที่ยงเพื่อนต้มปลากุเลาต้มส้มมาให้ 1 หม้อ อร่อยถูกใจ

บ่ายไปวัดถ่ายรูปที่ยังขาดอยู่ ตอนนี้น่าจะครบ เตรียมส่งสำนักพิมพ์

ช่วงนี้ฟังปราศรัยทุกคืน จากผู้มีประสบการณ์ และมีปัญญา เลยทำให้ตัวเองได้เรียนรู้ความคิด และอะไรอีกหลายอย่างมากขึ้น นี่ล่ะที่เขาว่าฟังมากรู้มาก สุตตปัญญา แต่ต้องเลือกฟังจากคนดีๆ จะได้ไม่มีขยะรกสมอง

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

12 Dec: ดูโง่ ดูดี...ไร้ปัญญา



เช้าไปมหาวิทยาลัย ฝนตกโครม เลยไม่ได้ตักบาตร

วันนี้เขียน

พระธรรมวิมลโมลี (สงคราม อสิญาโณ): เลื่อนสมณศักดิ์ 2556 (1)

http://meecorner2.blogspot.com/2013/12/2556-1.html

มีเพื่อนเก่าโทรมาขอความช่วยเหลือ เพราะโดนคนเลวๆ โลภๆ มาทำเรื่องป่วนในครอบครัว เขารู้เรื่องที่เราต่อสู้กับความไม่ถูกต้องมาตลอด ด้วยความสงบเย็นเป็นสุข ไปเรื่อยๆสบายๅ ใครเป็นผู้ก่อก็ทุกข์ไป เราก็จัดการให้ หวังว่าเขาจะผ่านไปด้วยดีเช่นกัน..ในสังคมยุคนี้มีคนที่โลภ อยากได้ของคนอื่นจนตัวสั่น (หมอเพื่อนเราบอกว่าลักษณะเช่นนี้เป็นภาวะผิดปกติทางจิต เคยมีคนไข้หญิงมาหาเขาด้วยอาการเช่นนี้ต้องบำบัด แต่หากไม่บำบัดอาการก็จะเพิ่มเรื่อยๆ จนในที่สุดก็จะไปเป็นขโมย สร้างเรื่องโกหกสารพัด..แบบที่เราสงสัยว่ารัชนีกร และโอฬาร คนใดคนหนึ่งมีอาการของภาวะนี้เช่นกัน เลยไม่ "สุขเกษม" ไปตลอดชีวิต อาจถ่ายทอดไปยังลูกหากคนที่เป็นแม่เป็นภาวะนี้) ก็น่าสงสารไปตามกรรม เราก็เห็นอาการของรัชนีกร ว่ามีแนวโน้มมากพอควรก็รู้สึกเวทนาบ้างบางครั้ง หุหุ

ข่าวช่วงนี้ทุกวงการออกมาให้สัมภาษณ์ เห็นอะไรหลายอย่างในแง่ของการแยกแยะถูกผิด สังคมไทยตอนนี้ขาดปัญญากันมาก เลยต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่สามารถคิดแยกแยะได้ คิดว่าวางตัวเป็นกลางแล้วดูดี จริงๆแล้ว ดูโง่ ดูดี กับไร้ปัญญา ก็ต่างกันแบบเห็นชัดทีเดียวนะเอย

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

11 Dec: วิญญูชน


เมื่อวานหลงวันไปมหาวิทยาลัย งงๆว่าทำไมสายแล้วจึงไม่มีนักศึกษาเลย ก็เลยโทรหาเพื่อนปรากฎว่าคำตอบคือ วันรัฐธรรมนูญ หยุดราชการ...เออ อาการหนักเขียนหนังสือจนลืมวันที่  ไปวัดช่วยจัดการงานของพระอาจารย์ เที่ยงกลับ

วันนี้เช้าไปวัด พระอาจารย์ให้แกะกระเช้าเอาขนมไปแจกเณร แจกพระ เลยแวะไปสนทนากับท่านกอบ เพลกลับ

ทำงานไปฟังข่าวไป ได้ฟังศ.สมบัติ พูด ว่าที่เราสู้ด้วยสันติอหิงสา มีเพียงนกหวีด คนมากมายเช่นนี้ถ้าต่างประเทศก็คงจบไปแล้ว รัฐจะลาออกเอง แต่ทั้งนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า เขาเป็นวิญญูชนกัน แต่เรากำลังสู้กับพวก.....ซึ่งขาดสำนึก ความละอาย และไร้ศักดิ์ศรี ขาดยางอายก็เลยต้องเหนื่อย และใช้เวลามาก  เราไม่มีอะไรจะเขียนทั้งที่อยากเขียนเพราะไม่ว่างเขียนมากนัก ต้องเร่งงาน  แต่ก็ส่งใจไปช่วยลุ้นให้ผู้ต่อสู้เพื่อชาติได้สำเร็จตามมุ่งหมาย พระสยามเทวาธิราชคุ้มครองประเทศและคนดีเสมอมา ครั้งนี้ก็คงช่วยปัดเป่าให้ธรรมะเหนืออธรรมอีกครั้ง

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

9 Dec: เรื่องดีๆ คนดีๆ ...เรื่องเลวๆ คนเลวๆ



หายไปหลายวันไม่ได้เข้ามาบันทึก เพราะไปร่วมงานที่กรุงเทพ นานๆไปทีแบบบ้านนอกเข้ากรุง


เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนา เลื่อนและแต่งตั้งสมณศักดิ์พระเถรานุเถระ ประจำปี 2556 จำนวน 71 รูป และในปีนี้พระอาจารย์เป็นพระเถระรูปหนึ่งที่ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จากพระราชาชั้นเทพ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนาม ที่
พระธรรมวิมลโมลี
ศรีศาสนกิจโกศล  โสภณธรรมานุสิฐ ตรีปิฏกบัณฑิต มหาคณิสสร
บวรสังฆาราม คามวาสี

 เราและ link จึงได้ไปร่วมในพิธีดังกล่าวและ จะนำรูปมาลงไว้

เหนื่อยกันมาหลายวันมาพักได้ 1 วัน เมื่อวานมีพิธีต้อนรับตั้งแต่สนามบินจนถึงวัด ตอนนี้ก็ผ่านไปเรียบร้อยด้วยดี ยังมีงานมงคลรออีกหนึ่งงานปีหน้าฟ้าใหม่

ตอนนี้ก็จะเริ่มทำหนังสืออีกเล่ม ลุ้นว่าทันหรือไม่......

วันนี้สอน 4 ชั่วโมงติดต่อกันไม่ได้พัก ลืมพัก ทานข้าวบ่ายสอง มานั่งลุ้นข่าวของมวลมหาประชาชน ได้ข่าวยุบสภาก็สบายใจขึ้นเล็กน้อยเพราะมันยังเป็นเพียงภาพลวงตา มายา ยังไม่ไช่สิ่งที่ประชาชนต้องการ หรือปชช.ควรจะได้รับโดยเสมอภาคกัน...ใกล้ความจริงแล้วที่ธรรมะ จะชนะอธรรมในที่สุด ไม่มีใครทำชั่ว เอาเปรียบ รังแกคนอื่นได้โดยไม่ได้รับกรรมสนอง ช้าหรือเร็วเท่านั้น และก็มีทุคคติเป็นที่ตั้งรออยู่เรียบร้อย

พรุ่งนี้เป็นวันที่จะเริ่มต้นอะไรดีๆ จากนี้ไปก็เป็นการเปลี่ยนแปลง  พวกที่มีชุดสีกากีใส่บ่งบอกความเป็นข้าราชการ ก็เป็นชุดที่มีเกียรติมีศักดิศรี ต้องทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ก็น่าจะได้สำนึกบ้าง เลิกการรีดไถ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม กระทั่งบางคนจ้างให้มีการปลอมแปลงหลักฐาน จ้างคนทำ/แก้หลักฐานเพื่อรีดไถคนอื่น จนคนจ้างทำ(สีกากี) เองก็ชีวิตก็น่าสงสารไม่ “สุขเกษม” เลย อยากให้ตระหนักกฎของกรรมให้มาก เพราะลูกหลานจะเป็นคนได้รับกรรมนั้น ตัวอย่างที่เห็นตอนนี้ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อในแผ่นดินแบบไม่ละอายต่อคนในแผ่นดินได้อย่างไร คนดีจำนวนมากเรียก...ว่า “คนชั่ว” เกิดเป็นคนทั้งที เอาดีไม่ได้แถมถูกคนตราหน้าว่า “ชั่ว”  เสียชาติเกิดจริงๆ

หมายเหตุ เรื่องนี้เกิดที่บนถนนไกล้ปั้มน้ำมันของคนเดินทางโดยรถยนต์ลงใต้เมื่อวันที่ 6 นี้ คนขับรถพาพระภิกษุกลับ 3 คัน มีคันที่ 3 ที่บรรทุกของที่มุทิตาสักการะพระอาจารย์นำกลับมาก่อน ตอนใกล้รุ่งพอผ่านถนนช่วงที่ด้านซ้ายขรุขระมาก หน้าถนนเสียต้องวิ่งขวา มีรถตำรวจออกมาดัก แจ้งความผิดที่วิ่งขวาพร้อมถามว่าจะให้ออกใบเสร็จจ่ายที่โรงพักปรับ 200 บาท หรือจะให้ตรงนี้ 100 บาท คนขับรายนี้ไม่ไช่คนขับธรรมดา (หากรู้แล้วคงหนาว) แต่เขาไม่อยากช้าหรือเอาเรื่องเพราะต้องตามคณะเจ้าคณะจังหวัดที่อยู่คันแรก เลยจ่ายค่าอาหารสุ...100 บาท เอากลับมาเล่าให้รับรู้ทั่วกัน แต่ไม่มีใครแปลกใจเรื่องนี้เพราะมันทำจนชาวบ้านชินชา แต่ก็สาปแช่งลับหลัง เงินที่ได้จากกระทำกรรมชั่ว/ผิดบาปต่อคนอื่น ทุจริต ไม่ทำให้ชีวิตพวกนี้มีความสุขได้จริงๆเสียที ต้องก่อกรรมรีดไถไปตลอดชีวิตจนวัน.........ตาย!!

 


วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

3 Dec: วันชนะ


เช้าไปวัดเอาของที่พระอาจารย์จะถวายพระทั้งหมดไปวัด เมื่อวานไปเลือกซื้อที่โรบินสันได้ถูกใจในระดับหนึ่ง เพราะยังไงที่นี่ก็ไม่ไช่กรุุงเทพที่จะมีของมากมายให้เลือก

ตอนนี้ก็เตรียมงานส่วนอื่นๆ ทำหนังสือเล่มสำคัญต่อ

เมื่อวานลุ้นมวลชนหน้าบชน. ให้พวกเขาปลอดภัย เห็นพวกน่าสงสารที่ไม่มีทางเลือกหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ร่วมกรรมทำบาปต่อคนไทยใจไม่ทาส ถืออาวุธ ขว้างแก๊สน้ำตาแล้วสมเพชพวกเขาเหล่านั้นมาก นั่งภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองประเทศดลบันดาลให้มีปาฎิหารย์  จัดการพวกน่าสมเพชเหล่านั้น

วันนี้ดีใจในระดับหนึ่งที่ในที่สุดสิ่งที่ทำลงแรงไปเมื่อวาน สำเร็จ สามารถผ่านด่านพวกสำนึกน้อย ไม่มีทางเลือกได้สำเร็จ  แต่นี่ก็เป็นเพียงด่านแรกเท่านั้น  หลังวันที่ 10 ค่อยมาดูกันอีกครั้ง

สงสารพ่อแม่ของเด็กรามคำแหงที่ตาย ไม่มีการต่อสู้เพื่อความถูกต้องที่ได้มาง่ายๆ ต้องมีผู้เสียสละเกิดขึ้นเสมอ แต่เขาก็เกิดมาคุ้มค่าได้ทำในสิ่งที่คนขี้ขลาดไม่กล้าทำ พวกขี้ขลาดต้องใช้อาวุธเป็นเครื่องตัดสินเสมอ

ตอนนี้ธรรมะเหนืออธรรม ได้ในระดับต้น ยังต้องมีอะไรที่ต้องทำอีกมากมาย ซึ่งต้องอาศัยปัญญามากกว่ากำลัง และต้องมีความสุจริตใจเป็นที่ตั้งจึงสำเร็จ


วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

2 Dec: เชียร์


 
วันนี้ตั้งใจลางาน ลางานเพื่อชาติ link เชียร์สุดๆ ใครจะเข้าใจยังไงไม่ไช่สาระ เพราะทุกคนมีเหตุผลของตนเอง ใจเป็นประธานเราทำในสิ่งที่ทำได้ และไม่ละเลยที่จะทำ มีคนเสียสละความสุขไปนอนกลางดิน เสียชีวิตจากการมีอุดมการณ์ (ดีกว่าตายอย่างไร้ค่า) เราแต่ละคนยิ่งมีการศึกษายิ่งต้องมีปัญญาในการชั่งและแยกดี ชั่ว ออกจากกันได้ และช่วยคนละไม้คนละมือ กองหน้ากองหลัง แสดงในส่วนให้กำลังใจ ทำในแบบที่ตัวเองทำได้ วันหนึ่งจะได้ไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้มีส่วนร่วม ไม่ว่าเขาแพ้หรือชนะ หากเขาทำเพื่ออนาคตชาติที่ดีขึ้น เราต้องสนับสนุน เพราะวันที่เขาชนะ เราจะได้ไม่รู้สึกละอาย ว่ามีความสุข บนกองทุกข์ของผู้อื่น ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาเลยกระทั่งการแสดงออกก็ไม่กล้า เรื่องนี้ไม่มีใครบังคับได้ ขึ้นกับความแข็งแรงของกระดูกสันหลัง และรอยหยักบนสมองจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

1 Nov: บ่วงกรรม



ขึ้นเดือนใหม่อีกแล้ว และก็จะขึ้นปีใหม่ในอีก 1 เดือนข้างหน้า เร็วจริงๆ อะไรที่อยากจะทำ ยังทำไม่เสร็จอีกหลายเรื่อง อะไรที่ไม่ได้วางแผนจะทำ มันก็เข้ามาแทรก และต้องทำก่อนโดยเฉพาะงานของประโยชน์ส่วนรวม เราจะทำก่อนเสมอ งานตัวเองตอนนี้เลยจอดรอ คิวยาวววว..ไม่เป็นไร ทำแล้วมีประโยชน์ มีความสุขก็ทำแม้ว่าบางทีเหนื่อย เพราะทำทีละหลายงานก็เลยมึน ..สองวันนี้พักงานเขียนไปทำงานเก็บข้อมูล และออกตระเวณดูของที่ต้องเตรียมถวายพระสลับกัน เมื่อวานออกไปหากระจาด ตะกร้า ไม่ไหวทั้งนั้น ของที่นี่ค่อนข้างแย่ จะหาของฝีมือประณีตเหมือนภาคกลาง เหนือไม่มีเลย เหนื่อยใจนะ ของที่ซื้อถวายมากมายอาจใช้ได้ บางอย่างเป็นประโยชน์สำหรับบางท่าน แต่บางอย่างอาจไม่มีประโยชน์ waste เปล่าๆ เลยปรึกษาพระอาจารย์ใหม่ในที่สุดลงตัวที่เครื่องใช้ไฟฟ้า อันนี้คิดว่าดี เป็นประโยชน์มแก่ทุกท่าน ใชัได้และได้ใช้ทั้งหมด ...โล่งใจไปอีกอย่าง

ยังคงคอยให้กำลังใจคนที่สำนึกดี คิดช่วยชาติให้หลุดออกจากวงจรโกงกินคอรัปชั่นแบบไร้สำนึก ทำนาบนหลังชาวนา ดูคนไม่ไช่คน โกงทุกรูปแบบ ถึงเวลาชดใช้อกุศลกรรมก็อยู่ไม่สุขทั้งครอบครัว ใครก็ตามที่คอยคิดทำร้ายคนอื่น แค่คิดกรรมก็เกิด ลงมือทำกรรมก็บันทึกไว้แล้ว สืบทอดต่อไปยังลูกหลาน ไม่ว่าเขารับรู้หรือไม่ก็ตามเพราะนี่คือบ่วงกรรม ที่ก่อไว้  ตอนนี้เราเองก็มีวิบากกรรมที่ได้รับ จากการกระทำของใครไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ เราไม่ได้ก่อเองในภพชาตินี้ กำลังศึกษาเรื่องนี้เพื่อเป็นบทเรียนไว้เขียนแนะนำผู้อื่นในสังคม เมื่อเราสามารถแก้วิบากนี้ได้ในอนาคต ตอนนี้กำลังศึกษาและทดลองใช้ในสิ่งที่เรียนมา ถูกสอนมา และศึกษาด้วยตัวเอง  ในการเผชิญกับปัญหานี้ ตอนนี้มีหลักการเดียวก่อน สิ่งไหนเราไม่ได้เป็นผู้ก่อ สิ่งนั้นไม่มี สิ่งไหนที่เราไม่ได้เป็นผู้ทำ หากมันมี สิ่งนั้นจะย้อนกลับไปสู่ผู้ทำเอง....ดังนั้นทุกอย่างรอเวลา เพราะผู้ก่อกรรมย่อมทุกข์ยาก หามีสุขสบายไม่ ส่วนเราผู้ตั้งรับ ก็อยู่เฉยๆ ไปเรื่อยๆ ด้วยความสงบเย็น เป็นสุขในสิ่งดีๆที่คงทำไปเรื่อยๆ ส่วนมากจะลืมในสิ่งไม่ดีที่คนอื่นทำไว้  เพราะเวลาของเรามีค่าสำหรับการทำสิ่งดีๆที่รออยู่ไม่ไช่มานั่งใส่ใจเรื่องขยะที่ไร้สาระ ทำดีสร้างกุศลเป็นงานประจำ ทำงานเป็นงานอดิเรกที่ทำเป็นปกติ แค่นี้ก็สงบ สบาย สุขใจ ทุกๆวันแล้ว หุหุ