วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

27 Feb: ตนต้องเตือนตน


เช้าไปวัด ไปคุมสอบ แต่งชุดดำร่วมกับมวลประชาชนไว้อาลัยกับการทำรุนแรงจนมีเด็กเสียชีวิต  (3 วัน) ก็มีคนในมหาวิทยาลัยใส่หลายคน แม้ไม่มากนัก อันนี้บังคับกันไม่ได้ สำนึกเป็นเรื่องส่วนบุคคล .....

วันนี้เรื่องคำสั่งกำจัดสุนัขในมหาวิทยาลัย และมีการกำจัดโดยวิธีการที่คนมีมนุษยธรรมรับไม่ได้ ยังคงเป็นอาหารปาก กระซิบคุยต่อๆกัน อย่างน้อยเราก็รู้เรื่องบางอย่างเพิ่มขึ้น แต่ที่แน่ๆมีคนพยายามเข้าไปดูหลุมต้องสงสัย แต่ไปสองครั้ง และมีนศ.ไปด้วยพบว่ามีเจ้าหน้าที่กองกิจฯ ยินเฝ้าแถวนั้น จนแซวกันว่าคงมีเวรผลัดกันเฝ้าหลุมหรือเปล่า ........วันนี้เจอกับคนที่รับเลี้ยงลูกหมาที่เกิดจากหมาตัวที่ถูกยิงยาสลบแล้วพาไปผ่าท้องทันเวลา แต่ลูกตายไป 6 ตัว ปรากฎว่ามีลูกตายเพิ่มอีก ตอนนี้เหลือ 10 ตัวแล้ว เราให้ค่านมข่วยไป 500  บาทก่อน เพราะเขาก็เป็นคนงาน ตอนนี้ถูกลงโทษด้วย เฮ้อ เพียงแค่ทำสิ่งที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ เราบอกว่าแล้ววันหนึ่งกรรมดีจะตอบแทน....

วันนี้เจอดร.นวล ก็คุยกันเรื่องงานวิจัยที่ไม่ถูกต้องของพวกพยาบาล พวกสาธารณสุข ที่ทำไปโดยไม่มีการทำเรื่อง Ethics เลย แต่ในมหาวิทยาลัยพวกบริหาร พวกกรรมการวิชาการไม่มีใครรู้เรื่องนี้เพราะพวกนี้ไม่ได้รอบรู้อะไรนัก ก็เลยปล่อยให้มีงานวิจัยแบบบกพร่องผ่านและจบออกไป โดยไม่มีใครรู้นอกจากพวกพยาบาลที่คุมงานไม่กี่คน แต่ปกปิดกัน ยังมีเรื่องแบบนี้อีกมากหลาย เพียงแต่สกอ.ไม่รู้เท่านั้น พวกสกอ.ตามไม่ทันหรอก

เพิ่งรู้ว่าเรื่องที่เราปฎิเสธไม่ไปอเมริกา มีการคุยต่อข้ามคณะ ไม่รู้ว่าข่าวออกไปได้ยังไง แต่เขาก็พูดว่าจะหาคนที่มีจุดยืนที่แน่วแน่ มั่นคงในความถูกต้องแบบนี้ยากมาก เพราะแต่ละคนย่อมต้องเอาผลประโยชน์ที่เห็นตรงหน้าก่อน อย่างอื่นไว้ทีหลัง เราก็บอกว่าแต่ละคนมีจุดยืนที่ไม่เหมือนกัน มีมโนธรรมที่ถูกบ่มเพาะมาต่างกัน และการชนะกิเลสได้ ต้องถูกฝึกฝน และการแยกแยะดีชั่วต้องถูกสั่งสอน เรียนรู้มา แต่ที่แน่นอนคือหากใครก็ตามเดินไปในเส้นทางที่ไม่สามารถชนะกิเลสในใจตนแล้วก็ไม่มีใครจะสามารถฉุดกลับมาได้ ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน และเงินภาษีแผ่นดินศักดิ์สิทธื์นัก