วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

12 Feb: ขัดเกลา


เช้าไปตักบาตร  ไปวัด แวะไปคุยกับท่านกอบหลายเรื่องเพราะไม่ได้สนทนากันมานาน วันนี้ที่มหาวิทยาลัยเตรียมจัดงานเกษตรปีแรก มีต้นไม้มาขาย ไม่รู้งานนี้จะเป็นยังไงบ้าง..โทรคุยกับดร.ติ่ง จึงรู้ว่าหกล้ม แขนเจ็บห้อยแขนแขวน..

ค่ำนี้ไปร่วมเป็นเจ้าภาพกับพระอาจารย์และท่านกอบในการบำเพ็ญกุศลศพคุณขาว ภัทรวดี สิริเวชภัณท์ ในวับ 60 ปี คืนนี้เป็นคืนสุดท้าย ขอให้พี่ไปสู่สุคติภพ..วันนี้พระท่านแสดงธรรมที่กล่าวตอนหนึ่งว่า ความตายไม่ไช่จุดสิ้นสุดของชีวิต แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่..เห็นรูปถ่ายพี่เขาแล้วนึกถึงความสดใสในอดีต แต่พี่เขาเหนื่อยมามากแล้ว หน้าที่บนโลกใบนี้จบลงแล้ว ทิ้งลูกชาย 1 คนที่เรียนจบแล้วไว้กับญาติ ชีวิตเขาก็ต้องแกร่งที่จะเริ่มเดินทางต่อไป เราไม่เคยรู้จักลูกมาก่อน คืนนี้เห็นก็บวชเป็นพระให้แม่ จำคล้ายๆว่าครั้งล่าสุดที่คุยกัน คุณขาวคุยถึงลูกชายให้เราฟังหลายเรื่อง แต่เราไม่ได้จดจำ นอกจากเรื่องงานที่จะให้เขาสืบทอด และคล้ายว่าน่าจะพูดเรื่องการบวชของลูกด้วย แต่ตอนนี้แม้ว่าจะไม่ได้อนุโมทนาบุญเห็นลูกบวชตอนมีชีวิต แต่พี่คงรับรู้ได้และได้รับผลบุญที่ลูกได้บำเพ็ญให้แม่ด้วยการบวช..นี่แหละจึงว่าไม่ควรประมาทในชีวิต ลูกชายก็ควรจะรีบบวชให้พ่อแม่ทันทีที่เรียนจบ แต่คนไทยเรานิยมให้ลูกหางานก่อน จริงๆหากได้บวชเรียนบ่มเพาะนิสัยก่อนทำงาน ขัดเกลาจิตใจ ก็น่าจะดีกว่ามากเลย พ่อแม่ปิติ ลูกเห็นก็เป็นสุขใจ แต่คนไทยไม่ได้ปลูกฝังข้อนี้.....

วันนี้เอาเจ้าแม่มดไว้ในบ้านกับศรีวันทดลองดู ว่าจะหนวกหูอีกไหม มันช่างเป็นตัวที่หวาดระแวงจริงๆ