วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

6 Feb: คนโกหก

 
 
 
(อ่านแล้วเปลี่ยนวิถีชีวิตที่เดินผิดทางกันเถอะนะ หากเดินถูกทางแล้ว ให้มั่นใจเดินต่อไป)


เช้าไปตักบาตร วันนี้อุทิศให้ yiching และทุกคนที่เสียชีวิตจากการเสียสละในการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของแผ่นดิน.....
 
วันนี้ได้รับข่าวส่งมาเกี่ยวกับโรค psychopath ..pseudologia fantastica คงส่งทั่วแล้วในโลกออนไลน์ ที่มีการวิเคราะห์อาการของคนๆหนึ่งที่กำลังไม่เป็นที่ต้องการของสังคมคนดีขณะนี้.....เลยสงสัย อยากอ่านเพิ่ม อ่านแล้วจึงนึกออกถึงบางอ้อ !! ที่เคยสงสัยว่าทำไมคู่ภรรยาสามี(ในเครื่องแบบ ที่เขาเพิ่งเปลี่ยนตราให้) ที่เบียดเบียนเราอยู่ตอนนี้ด้วยวิบากกรรมที่แม่ทำไว้ ทำไมเขาถึงได้โกหก กล่าวเท็จ เขียนคำเท็จได้มากมายซ้ำซากอีกต่างหากเพราะอ่านแล้วขำทุกครั้ง บางครั้งก็สงสารพวกเขาว่าต้องใช้ความพยายามมากไหมในการสร้างเรื่องเท็จขึ้นมา เมื่ออ่านเรื่องนี้แล้วทำให้พอเข้าใจพวกเขามากขึ้น ว่าที่แท้พวกเขาเป็นโรค......(ลองอ่านดู)  เราเลยรู้สึกสงสาร เวทนาพวกเขามากขึ้นอีก แต่ไม่มีใครรักษาพวกเขาได้ นอกจากกฎแห่งกรรมจะจัดสรรให้ครอบครัวเขาเอง
 

ย่อเอามาจาก เรื่องของคนโกหก...ความจริงที่ควรรู้ โดย

นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์

 โกหก...เพราะจิตป่วยหรือจิตป่วน

พวกป่วยเป็นโรคจิตเวช ป่วยเป็นโรคจิต คนที่ป่วยแบบนี้ เวลาที่มีอาการหลงผิด ก็มักจะมีความคิด ความเข้าใจไปตามอาการหลงผิด (delusion) ของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เล่าเรื่องและคล้อยตามความคิดที่ผิดปกติไปเรื่อยๆ ในขณะนั้น ดูเหมือนเป็นการพูดโกหก  น่าจะเรียกว่า พูดเรื่องที่ไม่จริงเสียมากกว่า(ซึ่งไม่ได้เป็นการเจตนา) หากมีใครขัดใจหรือใครจะมาลบล้างคงไม่ได้ และจะรู้สึกโกรธและไม่พอใจ

คนชอบโกหกกับสิบแปดมงกุฏ

กรณีนี้คงเป็นกรณีที่พบมากที่สุดในสังคมไทย (สามีภรรยาคู่นั้นน่าเป็นกรณีนี้มากกว่า ..18 มงกุฎ :)

Pseudologia Fantastica เป็นคำที่ใช้กันวงการจิตเวชและจิตวิทยา เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของมนุษย์ในการบอกกล่าวเล่าเรื่องต่างๆตามที่ตนเองเข้าใจหรือต้องการให้เป็นอย่างนั้น การพูดเรื่องราวต่างๆที่ไม่เป็นความจริงกรอกหูตนเองอยู่ซ้ำๆบ่อยๆ บางคนใช้วิธีการแบบนี้มาตลอดทั้งชีวิต จนในที่สุดคนคนนั้นก็จะคิดว่าเรื่องที่ตนเองพูดโกหกอยู่นั้นเกิดขึ้นจริงๆและเป็นเรื่องจริง หากพูดออกสู่สาธารณะ ก็จะทำให้คนในสังคมเชื่อว่าเรื่องโกหกนั้นเป็นเรื่องจริงในที่สุด

แต่ทั้งนี้หากมีการพิสูจน์ตามกระบวนการกฎหมายแล้วเป็นเรื่องไม่จริงก็ต้องรับโทษในที่สุด วิธีการแบบนี้พบได้มากในกลุ่มคนที่เป็น Psychopath หรือ Sociopath เรียกง่ายๆว่า "สันดานโจร" นั่นเอง และไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ การศึกษา และฐานะทางสังคม สามารถพบได้ทั่วไป ที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่ได้เป็นความเจ็บป่วยทางจิตเวช" เพื่อใช้ในการลดหย่อนหรือเป็นข้ออ้างในการไม่ต้องรับโทษ

หากเราเชื่อว่าเวรกรรมมีจริงนั้น จะเห็นได้ว่าการโกหกต้องใช้พลังงานในการสร้างเรื่องราวต่างๆอย่างมากมายมหาศาลและต้องอาศัยความจำและสมาธิอย่างมากในการให้เรื่องราวปะติดปะต่อกันได้เหมือนในบทละครน้ำเน่าทั้งหลาย แต่ในที่สุดมักจะพลาดจนมุม เพราะการโกหกมากๆจนเรื่องราวบานปลายออกไปนั้นมักจะทำให้สิ่งที่ไม่สามารถจะเป็นจริงได้โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีคนหลายคนที่แม้ว่าพยายามจะหลอกคนอื่นแล้วไม่สำเร็จ ก็เลยใช้กลไกทางจิตชนิดที่เรียกว่า Pseudologia Fantastica ในการหลอกตัวเองก่อนและพ่วงด้วยการหลอกผู้อื่นด้วย
 
ทำแบบนี้แล้วจะ "สุขเกษม" ได้อย่างไรเนาะ หุหุ