วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

23 Dec: หลงกรุง..ตามหาผักชี



เช้านี้ตื่นสาย เพราะเมื่อคืนเป็นไข้เล็กน้อย หวัดกำลังจู่โจม เช้านี้เลย para 1 เม็ดไม่เป็นไร เรากินพาราปีละไม่เกิน 3-4 เม็ด เพราะไม่ค่อยปวดหัวกับใครเขา

แก้ตำราทั้งวัน  งีบช่วงบ่ายเพราะต้องการพักผ่อนให้เม็ดเลือดขาวสู้กะไวรัส เย็นฝนตกหนักมาก

วันนี้ดูรายการ "หลงกรุง" ช่อง PBS เราชอบรายการนี้ เป็นธรรมชาติดี พอๆกับกบนอกกะลา แต่เป็นรูปแบบฝรั่งทำ(เดเนียล) และเขาทำโน๊ตน่ารัก รูปแบบโน๊ตเป็นอะไรที่น่าให้เด็กนักเรียน เรียนรู้ เป็นแบบง่ายๆ เด็กไทยเดี๋ยวนี้ใช้เครื่องมือจนไม่สามารถทำบันทึกลายเขียนกันมันก็ขาดอะไรไปเหมือนกัน กำลังคิดต่อไปในอนาคตหากเรามีเวลามากกว่านี้ก็คงทำบันทึกลายมือมาลงไว้ ตอนนี้ลายมือแย่ลงรู้ตัวเวลาจำเป็นต้องเขียนอะไรรู้สึกเขียนหยาบขึ้น

แต่วันนี่รายการของเดเนียล ตอน "ตามหาผักชี "เรารู้สึกไม่ดีตรงที่เขาไปที่ตลาดสี่มุมเมือง เจอผักเขาก็ลองกินแบบออกจากเข่ง จากห่อพลาสติกที่เขาขายส่ง ก็หยิบทดลองกินทันที กระทั่งมาที่พริกหยวก เขาก็หยิบทั้งดอกขึ้นมากัด แม่ค้าถามว่า.."ไม่กลัวยาฆ่าแมลงหรือไง" .......คำตอบของเขาคือ ยาฆ่าแมลง?? ผมไม่ไช่แมลง ไม่กลัว!!!  หวังว่าการกระทำและคำตอบนั้นคงไม่มีเด็กคนไหนดูแล้วเก็บไปทำ หรือจำไว้เป็นต้นแบบนะ จริงๆแล้วเราคิดว่าตัวเขาน่าจะรู้เรื่องยาฆ่าแมลงที่ชาวสวน ชาวไร่ต้องใช้กับพืชผักแล้วคนไทยเราไม่ได้ปลูกแบบออร์แกนิก ที่ปลอดสาร หรือใช้สารแต่ทิ้งระยะสลายตัวก่อนเก็บเกี่ยวเหมือนต่างประเทศที่เขามีข้อปฎิบัติที่ต้องทำกัน ผักผลไม้ในห้างก็เลยหยิบกินได้ทันทีแบบไว้ใจในสารเคมีว่าไม่ตกค้าง เรามีความแตกต่างของการเอาใจใส่ต่อผู้บริโภคต่างกัน ดังนั้นคำพูดและการกระทำของเดเนียลนั้นเป็นดาบสองคม  ก็หวังว่าผู้ใหญ่ที่ดูคงอธิบายให้เด็กฟัง

ที่เขียนนี่ไม่ไช่การจับผิด เพราะเราไม่ได้เจตนาดูเพื่อจับผิด แต่การฟัง เห็น ได้ยินอะไรที่ไม่น่าจะถูกต้องก็นำมาเขียนไว้ เผื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ที่ดูอะไรก็พินิจพิเคราะห์ อะไรไม่ปลอดภัย ไม่ถูกก็ต้องว่ากันไป   โชคดีนี่อยู่ในบล็อกเราเอง ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในบล็อกของคนกลุ่มใหญ่ที่มากด้วยนักวิชาการ ก็คิดว่าดี มีคนอ่านมาก มาแลกเปลี่ยนแนะนำกันได้  วันหนึ่งเราได้ยินผู้สื่อข่าวอ่านศัพท์วิทยาศาสตร์ผิดซ้ำๆ ตอนนี้จำไม่ได้ว่าเป็นคำอะไร แต่เท่าที่รู้สึกคือไม่น่าจะผิดไม่ไช่คำวับซ้อนอะไร ควรมีการซ้อมอ่านดูมาก่อน หากเขาไม่แน่ใจก็ควรถามหาความรู้ก่อน เราก็เขียนลงในอนุทิน เรื่องการอ่านผิด โดยมีจุดประสงค์เพื่อบอกว่าการเป็ผู้สื่อข่าว (ผู้อ่านข่าว) ก็ควรต้องมีการเตรียมตัว รับผิดชอบ หาความรู้ เพราะคนฟังเขามาก และมีคนทุกระดับฟัง หากผิดบ่อยก็ไม่ดี หลังจากเขียนอนุทินเล็กๆ ก็มีอจ.คนหนึ่งจากทางเหนือ เขียนลงในอนุทินของเขาว่าเราไปจับผิดคนทันที แต่วิธีที่เขาเขียนตำหนิคนแบบตัดสินไปแล้วเพราะเขาตัดสินคนอื่นตามพื้นฐานของเขามากไป คิดว่าคนอื่นคอยจับผิดไม่คิดว่าบางครั้งในสังคมต้องการการติเพื่อก่อ เตือนเพื่อสรรสร้างสิ่งที่ถูกต้อง ต้องดูเจตนาด้วย เมื่อเราอธิบายไปอจ.คนนั้นตามเง็บต่อ เราเลยตัดสินใจออกจากบล็อกสังคมเช่นนั้น เพราะอจ.คนนั้นก็เป็นที่รู้จักกันดีในบล็อกนั้น ได้สร้างภาพในหลายๆรูปแบบที่สังคมทั่วไปชอบกัน หลังจากที่เรารู้จากคนที่นั่นถึงตัวตนที่แน่ชัด เลยไม่คิดจะอยู่ในสังคมโซเชียลที่วุ่นวาย.. ชีวิตเราชอบที่จะไม่วุ่นวายหนอ   เพราะเราคิดจะเขียนเพื่อบันทึกจำ หากเกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นนั่นคือกำไรชีวิต และทุกอย่างชีวิตต้องเลือกได้ ..ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเขาที่เป็นแรงผลักให้เราออกมาสร้างบล็อก และเขียนในรูปแบบที่ตัวเองต้องการ และเป็นอิสระ