วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

10-13 Aug: แม่ชี


ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหนแต่ยุ่งกับการเป็นคุณแจ๋วเลยเหนื่อยทุกเย็น อยากพักผ่อนสมอง ตอนนี้บ้านสดใสขึ้นมาก มันก็เหมือนทุกๆอย่างหากเรามีเวลา จริงๆต้องพูดว่าให้เวลากับสิ่งนั้น/เรื่องนั้นสักนิด ทุกอย่างก็จะดี เรียบร้อย งดงาม ช่วงสามวันนี้ไม่ได้เขียนหนังสือแต่ก็อ่านหนังสือตามปกติ ที่ต้องเอาอาหารสมองไปเลี้ยงปัญญา ต้องหมั่นปลูกปัญญาสม่ำเสมอขาดไม่ได้ ขาดเมื่อไหร่ความโง่/ไม่รู้เข้ามาแทนที่ทันที

เมื่อวันจันทร์ที่เขาให้เป็นวันหยุดพิเศษ link ไปกทม. วันแม่ ไปสังสรรค์ครอบครัว เราไม่ได้ไปเลยตื่นมาตั้งใจจะไปถวายภัตตาหารเพล (จริงๆท่านทั้งหลายที่นั่นฉันมื้อเดียวตอน9.30-10 น.) เลยทำเมนูข้าวผัดปู กะทะแรกผัดเกือบเสร็จชิมดูปรากฎว่าข้าวโพดต้มที่ซื้อมาเปรี้ยว แย่แล้ว ทิ้งทั้งกะทะ ผัดใหม่อร่อยกว่าเดิม ทอดหอยจ้อ รีบไปสถานธรรมฯ ไปถึงเกือบเสร็จกันแล้ว แม่ชีและผู้มาปฎิบัติอีกหกคนก็ช่วยคนละนิดหน่อยก็หมด ด้วยความปลื้มใจของเรา หุหุ เล่าให้แม่ชีฟังว่ามาช้าเพราะผัดสองกะทะ แถมขับเลยทางเข้าไปอีกต้องถอยรถกลับ เจอรถน้ำที่ขับช้าๆ แซงไม่ได้เพราะทางแคบอีก เราก็คิดเออ เจอเบรกเป็นระยะๆ แต่ก็ถึงทันเวลา

คุยกับแม่ชีใหญ่ต่อจนเที่ยงลากลับ แม่ชีคุยได้ข้อคิดใหม่อีกสองเรื่อง การคุยกับผู้ที่มีจิตดี ผู้ปฎิบัติทำให้เราได้เรียนรู้ ได้ฟ้งในสิ่งที่หาอ่านจากหนังสือไม่ได้ เพราะบางครั้ง บางเรื่องเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้ และบางคนก็ไม่ได้เขียนเรื่องที่ตัวเองประสบไปเสียทุกเรื่อง บางครั้งในเส้นทางชีวิตบางเรื่องก็ไม่ได้เขียน บางเรื่องเป็นเรื่องเฉพาะตน แต่การได้คุยกับแม่ชีที่ปฎิบัติเองมาหลายสิบปี ก็ทำให้เราสามารถนำบางเรื่องมาต่อกับสิ่งที่ยังเป็นเรื่องสงสัย และสิ่งที่ยังไม่เคยคิด ให้เข้าใจเอามาใช้ดีมาก

หัวข้อหนึ่งที่คุยทำให้แม่ชีพูดเรื่อง "กรรมมันดูดกันมา" ทำให้เข้าใจอีกหลายๆเรื่อง เรื่องวิบากกรรมของคน ภพชาติ ฟังทุกครั้งก็เป็นการปลูกปัญญา