วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

6 Sep: ความเหงา


ตื่นเช้าแผ่เมตตา  ไปวัด เมื่อวานเพื่อนโทรมาพูดเลยว่า "..ถ้าเหงาแวะไปคุยกับพี่เขาที่บ้านได้นะเพราะตอนนี้..เขาอยู่บ้าน" (พี่เขามาพักฟื้นร่างกาย) เราก็บอกไปตามตรงทันทีว่า "งานเยอะตอนนี้ต้องตรวจข้อสอบที่ค้างอยู่"  เธอยังอุตส่าห์หยอดมาต่อว่า "อ๋อเหรอถ้าเหงาก็ไปได้นะ" เราก็บอกไปว่า "เอาไว้ช่วงเย็นๆถ้ามีเวลาจะแวะไป"...แน่นอนแม้เรามีเวลาพราะเขากลับบ้านแล้วแต่เขาก็ไม่มีเวลาช่วงนั้น เพราะพวกเขาก็จะออกไปนอกบ้านทานข้าว จ่ายของที่ชอบแทบทันทีเช่นกัน แต่เราไม่ทานมื้อเย็นถ้าไม่มีกรณีพิเศษ เลยมีช่วงเวลายาวสำหรับทบทวนชีวิต  ทำตัวสงบสบายสำหรับวันต่อไป ไม่ไช่ยุ่งเหยิง เหนื่อยขาดสติจนง่วงหลับ...ที่เราขำคือการรู้จักพูดให้ประโยชน์แก่ผู้อื่นเป็นสิ่งดี แต่บางกรณีก็ไม่ไช่ ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็บอกกันตรงๆได้ กรณีนี้หากเธอบอกเราตรงๆว่า...ให้ช่วยแวะไปคุยกับพี่ของเธอหน่อยเพราะตอนนี้เขาอยู่บ้านคนเดียวกล้วเขาเหงา แบบนี้ยังไงเราก็ไปได้ทันที แต่กรณีนี้กลับพูดในทางตรงกันข้ามดูเหมือนดี แต่ไม่จริงใจ..อันนี้ไม่นับเป็นความเกรงใจเพราะหากเกรงใจก็ไม่ควรโทรมาเลย เพราะจริงๆเธอใช้คำพูดเช่นนี้หลายครั้งเมื่อเธอมีญาติมา จะชวนไปคุยก็บอกตรงๆได้ หากใช้คำว่า "หากเราเหงา..แวะไปคุย" อันนี้เธอจะไม่เคยได้ตัวเราไปเลย..เพราะเธอใช้คำนี้หลายครั้งแล้ว เราก็แอบขำทุกครั้งว่า เราจะเอาความเหงามาจากไหนหนอ:)

ชีวิตคนที่มีสาระและมีสติอยู่กับตัว ครองตนในความพียงพอ พอดี พอใจที่เป็นที่มี ไม่วุ่นวาย ก็จะไม่รู้จักกับคำว่า"เหงา"...เพราะในแต่ละวันที่ผ่านไปนั้นผ่านไปอย่างเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและสังคม..จำได้ว่าดร.ติ่งเคยตอบใครบางคนที่มาถามว่า เหงาไหมหลังเกษียณ ว่า "ไม่มีเวลาสำหรับเหงา เพราะแต่ละวันผ่านไปเร็ว.. จนไม่ทันให้เหงา"...........เวลา สำหรับบางคนรู้อาจสึกว่าไม่พอ อยากให้มี 50 ชั่วโมงเพราะงานเยอะมาก แต่บางคนอยากให้ผ่านไปเร็วๆเพราะว่างมาก ฯ จริงๆแล้วเราทุกคนมีเวลาในแต่ละวันเท่ากัน แต่การจัดการเวลา การใช้เวลาต่างกัน  ทำให้การเรียนรู้ชีวิตต่างกัน..ค้นตัวเองให้เจอว่าเราเกิดมาทำไม เพื่ออะไร แล้วได้ทำอะไรดีๆให้แก่ตัวเองและโลกแล้วหรือยัง เพราะหากไกล้ตายเกิดอยากทำก็อาจไม่ได้ทำ เกิดเสียใจก่อนจะตาย ก็น่าเห็นใจ หุหุ


วันนี้ได้รับทราบข่าวน่ายินดี ด้วยความเป็นปกติ ..ตอนนี้สามารถรักษาความเป็นปกติได้มากแล้ว เพราะทุกอย่างมันเป็นเช่นนั้นเอง...ก็รู้สึกเห็นใจคนที่ต้องผิดหวัง แต่ผู้ใดทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับสิ่งนั้นกลับไป เหมือนคลื่นที่กระทบฝั่ง กระแทกแรงก็สะท้อนกลับไปแรง ผลกรรมก็เป็นเช่นนั้น ก่อกรรมไม่รู้จบ ก็ทุกข์ไม่รู้สิ้น เราก็ไม่ต้องไปตั้งรับอะไร ให้มีความตั้งมั่นในความถูกต้อง ศรัทธาในความดี ใครทำอะไรในทางไม่ดีกับเราเขาก็จะแพ้ภัยตัวเอง

เจอคุณสุพัฒน์ ยังห่วงปริมาณเส้นผมบนหัวเหมือนเดิม เฮ้อ!! คนไก้ลแก่ไม่รับความจริงก็ยังงี้แหละกลัวสาวๆไม่มอง