วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

1 Oct: ความดี - คนดี


เช้าตักบาตร เมื่อวานตักบาตรให้คุณชาคร (ไม่เคยรู้จักแต่สงสารเขา) จนท.อุทยานที่จมน้ำขณะลาดตระเวณ บ่ายก็ทำงานเอกสาร วันนี้นศ.สอบวิชาของเราหมดแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่เราต้องตรวจ อ่านอีกพอควร

วันนี้ค้นเรื่องหนึ่งปรากฎว่ามันหลงออกไปถึงสารพัดเรื่องตามอ่านต่อไปครึ่งวัน ช่างเขียนเก่งจริงๆ ไปเจอประโยคเหล่านี้เลยชอบขอบันทึกไว้..

"ความดีมี 2 อย่าง คือ

1.ความดีส่วนตัว เช่นเป็นคนดี ไม่เคยทำผิดกฎหมาย ไม่เคยต้องคดีความ เป็นพลเมืองดี หรือศาสนิกชนที่ดี เป็นต้น
 
2.ความดีส่วนรวม เป็นคนดีประเภทที่ 1 และมีตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือมียศถาบรรดาศักดิ์ สามารถให้คุณให้โทษแก่คนอื่นๆ ได้ ท่านใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางซื่อสัตย์สุจริต จึงถือว่าเป็นคนดีตามความหมายนี้ แต่ถ้าทำตรงกันข้ามก็กลายเป็นคนเลว
รวมความว่า คนดีมี 2 ประเภท คนเลวก็มี 2 ประเภทด้วย อย่าเหมารวมว่าถ้าเป็นคนดีประเภทที่ 1 แล้ว ก็ต้องเป็นคนดีประเภทที่ 2 ด้วย เพราะเป็นคนละส่วนกัน กลับกัน คนดีประเภท 1 อาจจะเป็นคนเลวประเภทที่ 2 ก็ได้

ตรงนี้ต้องอ่านช้าๆ และเรียงความเข้าใจให้กระจ่าง เช่น นักการเมืองที่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. นั้น ก็ต้องเป็นคนดี ไม่เคยต้องคดีความติดคุกติดตะรางหรือทุจริตใดๆ มาก่อน และมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่พอได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีแล้ว ปรากฏว่าหลายคนใช้อำนาจหน้าที่นั้นไปในทางฉ้อฉลทุจริต โกงบ้านโกงเมือง รวมทั้งโกงอำนาจอีกด้วย การแต่งตั้งโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรมนั้นถือว่าเป็นการทุจริตประเภทหนึ่งแน่นอน

ความดีประเภทที่หนึ่งนั้นเป็นความดีเฉพาะตน คนดีหรือไม่ดีประเภทนี้มีผลต่อสังคมในวงแคบ แต่คนดีประเภทที่สองคือคนที่มีตำแหน่งนั้น มีผลกระทบสังคมในวงกว้าง คนดีประเภทที่สองจึงต้องระมัดระวังยิ่งกว่าประเภทที่หนึ่ง ต้องคอยตักเตือนห้ามปรามมิให้กระทำความผิด ความทุจริตในหน้าที่การงาน อันให้คุณและให้โทษแก่ประเทศชาติศาสนาและสาธารณชนได้......."

บังเอิญที่เราโชคร้ายมาอยู่ในสถาบันการศึกษาที่ควรจะต้องมีคนที่มีธรรมะเป็นเครื่องกำกับ มีจริยธรรมสูงแต่เรากลับพบเห็นแต่คนที่ขึ้นสู่ตำแหน่งไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ที่เอาเงินเป็นตัวตั้งจนลืมสำนึกหน้าที่ที่ถูกต้อง ไม่ทำในสิ่งถูกต้อง ไม่สนับสนุนคนดีให้ทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา แต่ทำทุกอย่างที่นำไปสู่การดำรงตำแหน่งให้นานที่สุด......จึงลืมบทบาท หน้าที่ สำนึกครูไป น่าสงสารพวกเขาที่มีโอกาสสร้างความดี สิ่งดีๆ กลับไม่ทำ...  แต่เราก็โชคดีอย่างหนึ่งคือ เราใช้สถานที่นี้เป็นสนามทดสอบ และฝึกฝนตัวเองว่ามีภูมิต้านทานต่อกิเลสทั้งหลายในระดับใด ซึ่งก็ดีมากผ่านแต่ละด่าน แต่ละช่วงไปได้ด้วยกัลยาณมิตรทั้งหลายที่มี เหมือนที่เขาว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิดเช่นนั้นแล หุหุ