วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

15 June: อุปฐากวัด


วันนี้ฝนลงปรอยๆตั้งแต่เช้า ไปวัด ฟังพระท่านสอบแสดงธรรม มีพระท่านแวะมาคุยเป็นระยะ หลวงพ่อรูปที่อาวุโสที่สุดอายุ 77 ปี ท่านเดินผ่านมาแวะคุย และถามเราเรื่องอุปฐากวัด เราบอกท่านว่าครอบครัวเราอุปฐากวัดนี้มา 3 รุ่นแล้ว ก๋งอุปฐากสมัยพระเทพรัตนกวี (]ลพ.เกตุ   ) ก๋งจะพาเรานั่งซ้อนรถสองล้อไปวัด ก๋งไปคุยกะหลวงพ่อเพราะก๋งสนิทกับหลวงพ่อมาก (ดุ เหมือนกัน หุหุ) หลายครั้งเอาเราไปวางไว้ที่ห้องสมุดประชาชนที่ติดกับวัด บางครั้งม่าม้าก็พาเราไปถวายปิ่นโต เป็นภาพที่เราจำได้ ส่วนม่าม้าก็มาอุปฐากสมัยพระเทพสิทธินายก (ลพ.ข้อง.) เพราะม่าม้าเคยสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เราก็เรียนด้วย หลวงพ่อก็ชอบภาษาอังกฤษมาก ก็เลยคุยกันถูกภาษา เรามาดูแลหลวงพ่อในช่วงท้ายเพราะเราไปเรียนเสียหลายปี แต่เมื่อกลับมาก็จะแวะมากราบสนทนากับหลวงพ่อเป็นประจำ จนท่านมรณภาพ และก่อน/ระหว่างนั้น link และเราก็อุปฐากพระเทพสุธีเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน สืบทอดต่อมา ดังเจตนาของบรรพบุรุษ .......มีพระบางรูปทราบเรื่องนี้แล้วมาพูดอนุโมทนาว่าเหมือนวัดในญี่ปุ่นที่ส่วนมากจะเป็นเช่นนี้คือแต่ละตระกูลจะอุปถัมภ์วัดใดวัดหนึ่งสืบทอดกันมาเหมือนเป็นวัดของตระกูล..เราก็ยิ้มไม่ว่ากระไร เพราะตั้งใจแล้วที่จะเอาสิ่งที่ติดตัวไปไม่ได้ในภพหน้า ทำให้เกิดประโยชน์แก่พระพุทธศาสนามากที่สุดเท่าที่ทำได้ในภพนี้ ได้เพียงไหนก็แค่นั้น แม้มีมาร”ใหญ่โตโอฬาร”มาผจญเป็นระยะก็ไม่เป็นไร บุญเราทำ กรรมเขาเป็นคนสร้าง น่าเศร้าที่ลูกเขาจะเป็นคนรับกรรมนั้น ก็หวังว่าบุญที่เราอุทิศให้พวกเขาทุกครั้งเมื่อมีการทำบุญ พวกเขาจะได้รับแล้วจะรู้สึก “สุขเกษม” บ้าง ลดจิตที่มี โลภะ โทสะ โมหะ ลง มองเห็นความจริง และเลิกการทำสิ่งไม่ถูกต้องได้ เพื่อลูกเขาเองจะได้ไม่ต้องมารับกรรมนั้น

บ่ายท่านเลขาฯของการประชุมมาเล่าเรื่องคนปอกหมากให้ฟัง ก็น่าระวังมากอยู่ ไม่แปลกใจเพราะจริตออกให้เห็นหลายครั้งแล้ว

ได้ข่าวท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธรรมบูชา (ท่านเจ้าคุณสุขี) มรณภาพแล้ววันนี้ เมื่อวานคุณครูเนติภรณ์ โยมของวัดธรรมบูชาก็เพิ่งเสียชีวิตเช่นกัน

กลับเย็น เด็กๆรอหม่ำๆ